วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2561

เรื่องเล่าจากวันวาร ตอน ขนม ค-ร-ก



ทำไม ? ต้อง กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล



 หลายครั้ง หลายครา ในบางเรื่องผมชอบที่จะเขียนแทรกลงไปใน ข้อเขียน ว่า ... ผมดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล !!!

เพื่อนหลาย ๆ คนที่รักสุขภาพบอกว่า ... ไม่ใส่น้ำตาลก็ดี ( ปิดประตูโรคเบาหวาน )
บางคนชอบกาแฟหวานก็ว่า ... ไม่ใส่น้ำตาลก็เลิกกาแฟไปเลย  ( จะดื่มกาแฟ หรือ น้ำหวานวะ )
หรือคนที่ไม่ดื่มกาแฟก็บอกว่า ... ใส่น้ำตาลหรือไม่ใส่ ไม่ใช่เรื่องของตรู ( เอากะมันซิ )
เพื่อนที่รักสุขภาพคนหนึ่ง ( แน่นอนว่ามันไม่ดื่มกาแฟหรือเครื่องดองของเมาใด ๆ ทั้งสิ้น )  มันอุสาหะวิริยะ ค้นหา เรื่องราว และ ส่งเรื่อง ... 11 ข้อดีของการดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล มาให้

ผมอ่านจบแล้ว เห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยแอบเอา บทความเรื่องนี้ มาเขียนลง BLOG ซะเลย ( หาเรื่องเขียนไม่ได้ เลยโมเม เอามาเขียนเป็น ต้นฉบับ ไปซะเลย )

ขอขอบคุณ : ภาพจาก GOOGLE

เอาล่ะ ... เรามาดู 11 ข้อดีของการ ดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล กัน

1.               ป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B  
2.               ป้องกันโรคหอบ
3.               ลดการเกิดโรคตับจากสุรา
4.               ป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก
5.               ขับไล่ความชรา
6.               ลดอัตราคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ
7.               ละลายไขมัน
8.               เพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
9.               ช่วยแก้ปวดศีรษะ
10.             เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง
11.             ทำให้น้ำย่อย ในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัว หากได้ดื่มกาแฟเล็กน้อยหลัง                     ทานอาหาร

นั่นคือ 11 ข้อดีที่น่าสนใจมากของการ ... ดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล
ผมสรุปจากบทความที่มันส่งมาให้ ( ประมาณ 10 กว่าหน้ากระดาษ มีทั้งผลทดลอง ผลวิจัย ตารางเปรียบเทียบ อะไร ๆ อีกมากมาย ) เอาเป็นว่า รายละเอียดไปหาอ่านตามตำรา และวารสารต่าง ๆ รวมไปถึง GOOGLE ( ผมยังใช้บริการเลย ... ขอบคุณครับ )

ขอขอบคุณ : ภาพจาก GOOGLE

ทำไม ? ต้อง กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล
เหตุผลของผมหรือครับ ... ง่าย ๆ คือว่า  .... ผมดื่มกาแฟวันละมากกว่า   10  แก้ว !!!  ( ย้ำนะครับ )
ขืนใส่น้ำตาลทุกแก้วที่ดื่ม ( ทุกวัน ) ไม่นานเกินรอ รับรอง ... เบาหวาน ถามหาแน่ !!!

เรื่องเล่าจากวันวารตอน ขนม ค – ร – ก


คว่ำฝา – หงายฝา ใคร ๆ เขาเรียกกันว่า ... ขนมครก

ขอขอบคุณ : ภาพจาก GOOGLE

มีเรืองกล่าวเล่าขานนมนานกาเล ถึงชายยาจกยากไร้เงินทองชื่อ ...  เจ้ากะทิ ที่ให้บังเอิญ ไปหลงรัก ...สาวแป้ง ลูกสาวคนสวย ทายาทหนึ่งเดียวของ กำนันปุ่น ผู้ทรงอิทธิพลล้นฟ้า  ซึ่ง สาวแป้ง เองนั้นก็มีใจให้กับหนุ่มคนยากนั้นอย่างไม่มีจิตเดียดฉันท์ มาแต่เมื่อครั้งที่ทั้งสองยังอยู่ในวัยเยาว์  และสองหนุ่มสาวได้อธิษฐานสาบานรักมั่นในงานลอยกระทงว่า จะรันกันจนตราบ ... ชั่วฟ้าดินสลาย  !!!

ด้วยความรักที่มากมายเหลือคณานี่เอง ทำให้ ... เจ้ากะทิ ตั้งใจหมายมั่นว่าตนจะทำงานอย่างหนัก ขยันขันแข็ง  หนักเอาเบาสู้ไม่ย่นย่อท้อถอย เพื่อ เก็บหอมรอมริบเก็บเงินเก็บทอง เป็น สินสอด ไปสู่ขอ สาวแป้ง ยอดชีวายาหยี ที่เขารักมั่นจนหมดหัวจิตและหัวใจ !!!

แต่แล้วความจริงในชีวิตก็ปรากฏ เหมือนกับ  ฟ้าแกล้ง สวรรค์สาป ให้ ความรักบริสุทธิ์ ของหนุ่มสาวต้องมีอันเป็นไป  เมื่อกำนันปุ่น พ่อผู้ทรงอิทธิพลของสาวแป้งทราบเรื่อง ความรักต่างชั้นวรรณะ นั้น จึงคิด ตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการส่งสมุนมือดี ไปกลุ้มรุมทำร้ายหมายขวัญเพื่อกำราบ เจ้ากะทิ มิให้เหิมเกริม กำเริบเสิบสาน และหลาบจำ ไม่คิดหมายปอง เด็ดดอกฟ้า ผู้สูงศักดิ์ อีกต่อไป !!!

เจ้ากะทิ  แม้จะบาดเจ็บเจียนตายแต่ด้วย เพราะ  พลังแห่งความรักที่มั่นคง  ทำให้เจ้าหนุ่มฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค แต่กลับมุ่งมั่นที่จะทำตาม ความฝัน ของตนเองให้ได้  

เมื่อเป็นดังนี้ก็ย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับ กำนันปุ่น พ่อของสาวแป้ง เป็น เท่าทวีคูณเหนือคณานับ จึ่งคิดที่จะแยกหนุ่มสาวออกจากกันอย่างเด็ดขาด ด้วยการตัดสินใจยกลูกสาวคนสวยให้กับ ปลัดสมชาย ปลัดอำเภอหนุ่ม หน้ามนจากบางกอก เมืองหลวงดินแดนศิวิไลย์ที่มาก้อล่อก่อติด สาวแป้งอยู่เป็นเนืองนิตย์ ทันทีที่เขาเอ่ยปากสู่ขอจาก กำนันปุ่น

ด้วยความกังวลว่า  เจ้ากะทิ  หนุ่มคนยากผู้ดื้อรั้นจะมาก่อกวน งานพิธี  กำนันปุ่นสั่งให้ลุกสมุนจัดการขุดหลุมพรางเอาไว้รอบบ้าน เพื่อดัก เจ้ากะทิ  แต่แผนการร้ายในครั้งนี้ไม่อาจที่จะรอดพ้นไปจากสายตาของ ... สาวแป้ง หญิงสาวเป็นห่วงคนรักของเธอยิ่งนักเพราะเกรงว่าเขาจะประสบเภทภัย  จึงแอบซุ่มอยู่ภายนอกบริเวณบ้าน รอที่จะเตือนคนรัก หากเขามาถึง

และเป็นจริงดั่งที่คิด เจ้ากะทิ เดินดุ่ม ๆ เข้ามาภายในบริเวณกับดัก เมื่อเห็นคนรักอารามดีใจของหญิงสาว ทำให้เธอวิ่งฝ่าเข้าไปในบริเวณหลุมกับดัก และ พลาดพลั้งตกลงไปในหลุม  จ้าวกะทิ เห็นดังนั้น ตกใจจนแทบสิ้นสติ เลยกระโดดตามลงในหลุมเพื่อจะช่วยสาวคนรัก ที่ไม่สามารถขึ้นมาจากหลุมลึกนั้นได้

สมุนกำนันปุ่น ที่แอบซุ่มอยู่ พอรู้ว่ามีคนตกลงไปในหลุมลึก ก็รีบวิ่งมาที่หลุม และช่วยกันโกยดินฝังกลบหลุมนั่นจนมิด โดยหารู้ไม่ว่า  ในหลุมกับดักนั้นหาใช่มีเพียง  จ้าวกะทิ ผู้อาภัพรักแต่ผู้เดียว ไม่ แต่มี สาวแป้ง หญิงสาวเคราะห์ร้าย ที่หล่นลงไปในหลุมนั้นด้วย

รุ่งเช้า  กำนันปุ่น  มาที่หลุมกับดักมรณะ นั้น  แล้วสั่งให้ลูกสมุนขุดหลุมเพื่อดูผลงานชิ้น โบว์แดง ที่ทำเอาไว้
แต่ กำนันปุ่น และทุกคน แทบไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อเห็นภาพตรงหน้า  ที่ก้นหลุมเบื้องล่างปรากฏร่าง  จ้าวกะทิ  นอนตระกองกอดก่ายทับร่างของ  สาวแป้ง  ทั้งสองคนนอนตายคู่กันอย่างมีความสุข !!!
รอยกระหยิ่มยิ้มย่องบนใบหน้า  เปลี่ยนเป็น ใบหน้าเศร้าหมอง นองด้วยน้ำตา  กำนันปุ่น ร่ำไห้อย่างไม่อายใครรำพึงรำพันอย่างคนหัวใจแหลกสลายต่อหน้าศพของลูกสาว  !!!

ตราบวันนั้นเป็นต้นมา เพื่อเป็น อนุสรณ์แห่งความรัก  ของ จ้าวกะทิ  และ สาวแป้ง  ทุกวันแรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ชาวบ้านที่ทราบเรื่องของทั้งสองคนและศรัทธาในความรักของทั้งคู่  ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมหอมหวาน ที่ปรุงจากแป้ง และกะทิ หยอดลงในภาชนะดินเผาลักษณะเป็น หลุม พอแป้งสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเพื่อเป็นเสมือนสัญลักษณ์ว่า  “ ทั้งสองจะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป ”  

ขนมหลุมนี้ถูกเรียกกันว่า  “ ขนมแห่งความรัก ”  หรือ ขนม คน-รัก-กัน ... ซึ่งต่อ ๆ มาขนมนี้ถูกเรียกอย่างย่อ ๆ ว่า “ ขนม ค-ร-ก ”

                                                                                           ขอขอบคุณ : ภาพจาก GOOGLE

ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า ขนมหวาน ที่เราทานกับ กาแฟ จะมีที่มาจากเรื่อง ... โศกนาฏกรรม ที่น่าเศร้า !!!

ไม่มีความคิดเห็น:

คนไม่มี ค. ว. และ ย.

คนไม่มี  ค. ว. และ ย.   หยุดคิดเสียก่อน ... ก่อนตัดสินใจ ผมดูท่าว่า ... มัน จะไปกันใหญ่แล้วนะครับ ... !!! กับ สารพัดเรื่องราวที่เ...