วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

เรื่งเล่าจากวันวาร ตอน ดาบ



ป.  อา.  ก. = ปาก


ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE

คุณที่รักครับ ... ก็อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันนั่นแหละครับ
ว่า ปาก !!! ได้ชื่อว่าเป็น ... อวัยวะสำคัญ ... ของมนุษย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ ปาก ในการสร้าง ปฏิสัมพันธ์ ใน สังคม !!!
“ พูดดี เป็น ศรีแก่ปาก ... พูดชั่ว ปากมีสี ”
ผมเชื่อว่าคุณคงเคยได้ยิน ... คำพูดทำนองนี้ กันมาบ้างเช่นกัน !!!
สุภาษิตไทยโบราณ ... ที่พรรณนาถึงคำว่า “ ปาก ”  มีมากมาย
หลากหลาย ที่มา และ ความหมาย ... ยากจะจาระไนได้หมด
เราลองมาดูกันดีกว่า ...  ป. อา. ก. = ปาก
ใน สุภาษิตไทยโบราณ ... มีอะไรบ้าง ?

เรามาเริ่มเกริ่นกันที่คำแรก                             ใช่ว่าแปลกรู้กันมาแต่ ... หนหลัง
“ ปากเป็นเอก เลขเป็นโท ” ได้ยินฟัง           รู้หรือยัง ... คำพูดนั้นสำคัญกว่าการเรียน !!!
หากพูดไปไร้ประโยชน์ ... นิ่งเสียจะดีกว่า        เพราะว่า “ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ”
ป่วยการพูดให้ “ ปากเปียกปากแฉะ ”           จะชี้แนะ ไปเท่าไหร่ ? ... ไม่ได้ผล
พูดไปมาก พูดจนเบื่อ ... หนักกมล                  พูดเสียจน ... “ ปากฉีกถึงใบหู ”  ดูไม่งาม !!!
แต่ก็มีบางคนปากมัน ... อยู่ไม่สุข                    สร้างเรื่องทุกข์ ให้คนอื่น อยู่เสมอ
“ ปากตำแย ” พูดมากไปจังเลยเธอ               อย่าเผลอเลอ อาจโดนเหน็บเจ็บแทบตาย
กับอีกปาก ... พูดออกไปดูดีแต่คิดร้าย             อันตราย ... “ ปากปราศรัยใจเชือดคอ ” !!!
“ ปากคนยาวกว่าปากกา ” จริงไหม ? หนอ   ปากสอพลอบอกข่าว ... ไว เหลือหลาย
“ ปากปลาร้า ” พูดไปด่าไป ... คำหยาบคาย   เป็น “ ปลาหมอตายเพราะปาก ” รู้หรือยัง ?
ส่วนพวกที่ชอบเปิดเผยเรื่อง ... ความลับ          ควรจะนับว่า “ ปากโป้ง ” ... อย่างเหลือหลาย
แต่ “ ปากมาก ”  น่ารำคาญพูด ... มากมาย     ผลสุดท้าย นำภัยร้ายมาสู่ตัว ... ชั่วพริบตา !!!     
“ ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ” ... ยังเด็กนัก           อย่าริรัก ... ก่อนวัยเรียน ทีเดียวหนา
พูดมากไปก็อายปาก ญาติระอา                        “ รอดปากเหยี่ยวปากกา ” มาได้ ก็บุญ                    
ดีแต่พูด ทำไม่ได้ ... ใช่ดูถูก                            เรียนแต่ผูกไม่เรียนแก้ แย่ ... ชิ-หาย
“ ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก ” ยากจะตาย       ยังขวนขยายทำไป ... ทำไม ? กัน
ยากลำบาก ตรากตรำ ทำงานหนัก                    ทั้งปากกัด ตีนถีบ ... จนหัวหมุน                         
“ ตามใจปาก มากหนี้ ” ... ชุลมุน                  ไม่มีทุนไปต่อ ... ขอไปที !!!
โบราณว่า “ สิบปากว่าไม่เท่า ... ตาเห็น ”       หรือจะเป็น ความจริง ... แน่เทียวหรือ ?
เพราะใคร ใคร เขาพูด ไม่หืออือ                       ทำไขสือ แอบเมียงมอง ... เห็นของจริง !!!
ใคร ? บางคน  เขาพูดอย่าง ทำอีกอย่าง            เขานี้ช่างกลับกลอกหลอกเหลือหลาย
ทำ “ ปากว่าตาขยิบ ” ปิดแทบตาย                 จุดมุ่งหมายไม่มี ... หาไม่เจอ
อีกพวกหนึ่งก็ ... “ ปากว่ามือถึง ”                    คนทะลึ่ง ... พูดแล้วทำเวลาเผลอ !!!    
 “ ปากสว่าง ” เผยความลับของเพื่อนเกลอ       เป็นเสมอเพื่อนกัน ... มันเผาเรือน       
อีกคนชอบทำตัวเป็น ...  “ ผู้ร้ายปากแข็ง ”      ชอบตะแบง ดึง ดัน ดื้อเหลือแสน                      
“ น้ำท่วมปาก ” ไม่บอกไปแบบ แมน แมน         เพราะกลัวแฟนทิ้งไป ... เปลี่ยวอุรา !!!                       พวก “ ปากหนัก ” ไม่ค่อยพูด ... ไม่ปรึกษา      ไม่พูดจา คุยทักทาย สนุกสนาน
ทั้งพวก “ ปากหวานก้นเปรี้ยว ”  อีกตั้งบาน     ที่วาจาอ่อนหวาน แต่ไม่ ... จริงใจ !!!                  
และกับพวกชอบ นินทา ... คุยลับหลัง                ให้ระวัง “ ปากหอยปากปู ” แทงข้างหลัง
“ กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง ” ไม่อินัง     รู้เรื่องจัง ... แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ความ
“ มือถือสาก ปากถือศีล ” ระวังให้จงหนัก        คนเอ่ยทัก มีศีลธรรม ดีหนักหนา
พอลับหลังไม่มีคน ... เห็นคาตา                         นี่ล่ะหวา ... คนชั่วช้า สันดานเลว !!!
ส่วนพวกที่เก็บ ความลับ ... ไว้ไม่อยู่                  ใครก็รู้ ... “ ฆ้องปากแตก ” แปลกไม่หาย
เรื่องแค่นี้เก็บไม่ได้นะ ... ไอ้ควาย                      สะดวกดาย แสนง่าย ... แค่กัดฟัน
ของง่าย ง่าย  “ ปอกกล้วยเข้าปาก ”  ฉัน        กินทุกวัน แสนจะดี ... ดีหนักหนา
 “ พร้างัดปากไม่ออก ”  กรอกลูกตา               ปวดอุราก็เพราะเหน็บให้เจ็บใจ !!!
โบราณว่า “ เล่นกับหมา หมาเลียปาก ”           ลดตัวมาก ... วางตัวไม่เหมาะสม         
จนบางทีเผลอไผล ... ถูกลูบคม                         สนิทสนมกับคนพาล ... บานบุรี
เปรียบเป็น “ หญ้าปากคอก ” ให้หมองศรี         ดูกี่ที กี่ที ก็ข้ามไป ... มองไม่เห็น !!!                          ถี่ลอดตาช้าง ห่างก็ต้อง ... ลอดตาเล็น               “ อ้าปากเห็นไรฟัน ”  ... รู้ทันกัน           
“ อ้อยเข้าปากช้าง ” มีหรือ ? จะได้คืน             อย่าไปฝืน ดึงดัน ... คืนกลับยาก !!!
“ อ้าปากเห็นลิ้นไก่ ” ... รู้เท่าทัน                     คำพูดมันพูดออกมา ... รู้ทันที
จบเสียทีกับเรื่องราว ... ที่สืบหา                         แล้วนำมาบอกต่อกัน ขมันขมี
เรื่องของ ปาก พูดชั่ว ... ไปบอกไม่ดี                  พูดจาดี ... เป็นศรีปาก ไม่ยากนาน !!!
                               
ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE

ปิดฉาก กลอนพาไป แบบฉบับ คนบ้าเขียน ( กลอน ) 
หากได้ดี มีประโยชน์ ยกความดีนั้นให้ ... แผ่นดิน
แต่ถ้าไม่ดี ไม่มีสาระ ก็ ทิ้งมัน ไปซะ ... แค่นี้

เรื่องเล่าจากวันวาร
ตอน   ดาบ

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE

ยุคสำริด ( Bronze Age )
จากหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์บันทึกเอาไว้ว่า “ ดาบ ”  ถูกสร้างขึ้นในช่วง ๑,๖๐๐ ปีก่อนคริสต์
ศักราช !!!
ในช่วงปลายสหัสวรรษที่ ๓ ก่อนคริสต์ศักราช ในตะวันออกกลาง "ดาบ" ถูกพัฒนาจาก "กริช"  
ที่มี ใบมีดยาวกว่าเดิมโดย ในช่วงแรกทำจาก ... ทองแดง-สารหนู ต่อมา เปลี่ยนเป็น ... ดีบุก-ทองแดง
“ ดาบ ” เก่าแก่ที่สุดที่เคยค้นพบโดย นักโบราณคดี ขุดได้ที่ Arslantepe ประเทศ ตุรกี ซึ่งมี
อายุประมาณ ๓,๓๐๐ ปีก่อนคริสตกาล เป็นดาบที่ตีขึ้นจาก “ ทองสัมฤทธิ์ ”  มีความยาวมากกว่า 
๖๐ เซนติเมตร
ใบดาบ ... ในยุคแรก นั้นจะถูกตีขึ้นมาในลักษณะที่  เล็กและเรียว เพื่อ เน้นการแทงเป็นหลัก 
ต่อมามีการพัฒนา ใบดาบ ถูกตีขึ้นรูปให้กว้างขึ้น เป็นลักษณะ “ รูปทรงใบไม้ ” เพื่อประโยชน์
ในการ ... ฟันและแทง    
ก่อนสิ้น ยุคสำริด ... ดาบถูกแพร่กระจายไปทั่วทวีปยุโรป !!!

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE

ยุคเหล็ก ( Iron Age )
ในศตวรรษที่ ๑๓ ก่อนคริสตกาล มีกานำเอา เหล็ก  มาใช้เป็นวัสดุในการตีดาบ เพราะดาบที่ทำจากเหล็กจะมีคุณภาพดีกว่า และ ... โค้งงอได้ง่าย  
กองทัพอียิปต์ หันมาใช้ เกราะและอาวุธ ที่ทำจาก “ เหล็ก ”  มากขึ้น แม้ว่า กองทัพอียิปต์ จะมี
อาวุธที่เป็น “ ทองสัมฤทธิ์ ” มากมายก็ตาม โดย ใบดาบ ของกองทัพ จักรวรรดิ Parthian  และ จักรวรรดิ Sassanian  จะมี ใบดาบ ค่อนข้างยาว  ( แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เซนติเมตร) !!!

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE

“ ดาบ ” นอกจากจะใช้เป็นอาวุธในการสู้รบ แล้ว ... ยังถูกนำมาใช้สำหรับการลงโทษ เช่น การตัด
แขน ตัดขาหรือแม้กระทั้งตัดศีรษะ
“ ดาบ ” ได้รับการยกย่องให้เป็น อาวุธสงคราม ที่มี เกียรติ และ ทรงคุณค่า เป็นอย่างสูง 
โดยเฉพาะใน ยุคโรมัน การใช้ดาบ นั้นจะถูกสงวนสิทธิไว้สำหรับ ... “ ชนชั้นสูง ”  เท่านั้น !!!

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ยุคกลาง (Middle Ages)
ในช่วงสุดท้ายของยุคกลาง “ ดาบ ”  ถูกใช้เป็น ... อาวุธป้องกันตัวเอง มากกว่าการใช้ใน ... 
การสู้รบ
คุณค่าและความสำคัญ ของ “ ดาบ ” ถูกลดลงไปอย่างต่อเนื่อง และในช่วงต้นศตวรรษที่ ๑๙ 
“ ดาบ ”  เริ่ม ล้าสมัย และ ตกยุค ไปเนื่องจาก การพัฒนาของอาวุธสงครามชนิดใหม่นั่นคือ ... 
“ ปืน ” !!!

ไม่มีความคิดเห็น:

คนไม่มี ค. ว. และ ย.

คนไม่มี  ค. ว. และ ย.   หยุดคิดเสียก่อน ... ก่อนตัดสินใจ ผมดูท่าว่า ... มัน จะไปกันใหญ่แล้วนะครับ ... !!! กับ สารพัดเรื่องราวที่เ...