ความกลัว ... บ่งบอกอะไร ?
คุณครับ
!!! ... คุณ ... กลัวอะไร ? ในชีวิต
หลากหลาย
นิยาม ของคำว่า ... “ กลัว ” แตกต่างกันออกไป
นักวิชาการท่านหนึ่ง กล่าวว่า ความกลัว คือ อารมณ์ที่เกิดจาก
“ การรับรู้ภัยคุกคามของสิ่งมีชีวิต
” !!!
เป็นสาเหตุทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงทาง สมอง และ การทำงานของ อวัยวะ
และ พฤติกรรม การตอบสนองความกลัวเกิดขึ้นจากการรับรู้อันตรายที่นำไปสู่
...
การเผชิญหน้าหรือ
การหลบหนี ... จากภัยคุกคาม ที่อาจจะเกิดขึ้น !!!
แต่
คุณรู้ไหมครับว่า ... “ ความกลัว ” นั้น
บอกตัวตนคุณได้ !!!
“
ความตาย ” :
จุดสุดท้าย
จุดสิ้นสุดของชีวิต !!!
ถ้าคุณกลัว
... ความตาย !
คุณเป็น
... คนขี้ระแวง ค่อนข้างจะกล้าหาญเกินตัว
มีน้ำใจ มีความรับผิดชอบ
คุณมีความหนักแน่น
ไม่หูเบาฟัง หูไว้หู มีความเคารพดีเป็นเลิศ มีความเป็นผู้ใหญ่
และอ่อนโยน
แต่ที่เป็นข้อเสียคือ
... คุณรับ “ ความเป็นจริงของชีวิต ” ไม่ค่อยได้ ...!!!
เพราะ
“ ความตาย ” คือ ... ความเป็นจริงของชีวิต !!!
“
ภูตผี ” :
สภาพลึกลับ
ที่มองไม่เห็นตัว แต่อาจปรากฏเหมือนตัวตนได้ !!!
ถ้าคุณกลัว
... ภูตผี
คุณเป็น
... คนอ่อนไหว แต่มีความจริงใจ ที่ไม่ละเลยกับวัฒนะธรรมเก่า
ทั้งที่เป็น
คนยุคใหม่ไฟแรง และอยู่ในกรอบ
คุณเป็นคนที่ไว้ใจได้ แม้คุณจะ... เจ้าอารมณ์ ขี้โมโหบ่อย
ๆ
ข้อเสียของคุณคือ
... เป็นคน “ ไม่มีเหตุผล ” !!!
เพราะ
“ ภูตผี ” คือ ... สิ่งที่ไม่มีตัวตน !!!
“
การอยู่คนเดียว ” :
รักสันโดษ
ไม่มีใครสนใจ หรือ แอนตี้สังคม !!!
ถ้ากลัว
... การอยู่คนเดียว
คุณเป็น
... คนใจดี ใจอ่อน มักที่จะแคร์คนรอบข้าง มีเหตุผล และ มีความพยายาม
นอกจากนั้นคุณยังเคร่งครัดในธรรมเนียม
ประเพณี และรักความยุติธรรม
แต่ข้อเสียคือ
... คุณเป็นคน “ ไม่ชอบกฎระเบียบ ” !!!
ดังนั้น
คุณจึงน่าที่จะ ... “ อยู่คนเดียว ” มากกว่า !!!
“
การจากลา ” :
สิ่งที่น่าเศร้า
แต่ คือจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ !!!
ถ้ากลัว
... การจากลา
คุณเป็น
... คนรักมั่นคง จิตใจ ไม่โลเล เกลียดการโกรธแบบไม่มีเหตุผล เลือกคบ
คนที่ใจใช่หน้าตา
คุณเป็นคนจริงจัง
ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และเป็นคนจริงจัง
ชอบที่จะทำอะไร
“ เงียบ ๆ ” ไม่ชอบเอะอะ !!!
ดังนั้น
คุณจึง ... “ ลาจาก ” ไปแบบเงียบ ๆ เช่นกัน !!!
“
สัตว์น่าขยะแขยง ” :
สัตว์
ไม่น่ารัก เนื้อตัว หน้าตา น่าเกลียด น่ากลัว ชวนสะอิดสะเอียน !!!
ถ้ากลัว
... สัตว์น่าขยะแขยง
คุณเป็น
... คนสุดจะสำอาง ไม่ชอบสิ่งสกปรก ไม่ทำอะไรให้ยุ่งยาก
และ ไม่รัก
ที่จะเจอคนไม่พึงประสงค์
คุณเป็นคนที่เก็บความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน
แต่ข้อเสียคุณคือ
... เป็นคน “ รักง่ายหน่ายเร็ว ” !!!
เชื่อเถอะว่ากับ
“ สัตว์น่าขยะแขยง ” ยากที่จะให้คุณรักแน่ !!!
เห็นไหมครับ !!! " ความกลัว " ยังสามารถบ่งบอก " ตัวตน " ได้
ดังนั้น พฤติกรรม จึงเป็น การแสดงออก ถึง ตัวตน ของคุณ !!!
และพิสูจน์แล้วว่า ... เป็น " ความจริง "
เรื่องเล่าจากวันวารตอน แฮมเบอร์เกอร์
ยังไม่ปรากฏหลักฐานจาก
หน้าบันทึกประวัติศาสตร์ ที่ชัดเจนว่า ประเทศใด ?
หรือชนชาติไหน ? ที่เป็น “
ต้นตำรับ ” ของแฮมเบอร์เกอร์
แต่คำที่ใช้เรียก
ขนมปัง 2 แผ่น ที่ประกบ ชิ้นเนื้อ ตรงกลางว่า
“ แฮมเบอร์เกอร์ ” มีบันทึกใน
หน้าประวัติศาสตร์ว่า
เริ่มต้นขึ้นที่ เมืองฮัมบูร์ก (Hamburg) ประเทศเยอรมนี !!!
แต่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเป็นอย่างมากที่
“ แฮมเบอร์เกอร์ ” กลับได้รับความนิยม
จนติดอันดับ ๑ อาหารยอดนิยม ที่
ประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ชาวเยอรมัน
โดยเฉพาะคนที่ ฮัมบูรก์ กลับนิยม “ แซนด์วิช
” มากกว่า !!!
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่ชัดว่า
... ใคร ? เป็นผู้ที่แนะนำให้ชาวฮัมบูร์ก
รู้จัก “ แฮมเบอร์เกอร์ ” แต่ก็พอจะมี “ ข้อสันนิษฐาน ” ถึงเรื่องนี้อยู่ ๒ ประการ
ประการที่
๑ : ย้อนกลับไปในช่วงยุคกลาง “ ฮัมบูร์ก
” เป็นเมืองท่า ศูนย์กลางการค้าที่
สำคัญระหว่าง “ โลกอาหรับ และยุโรป ” ทำให้ พ่อค้าอาหรับได้มีโอกาสพบกับชาวเมือง
ฮัมบูร์ก และได้แนะนำอาหารที่ชื่อ “ กะบาบ ” ซึ่งเป็น เนื้อลูกแกะบดผสมเครื่องเทศ ที่มัก
จะนิยมกินกันแบบดิบ
ๆ ให้กับชาวเมืองได้รู้จัก
ต่อมา
ได้มีการดัดแปลงสูตร กะบาบ โดยเปลี่ยนจาก เนื้อลูกแกะ เป็น เนื้อหมู หรือ เนื้อวัว
แทน พร้อมกับปรุงรสขึ้นใหม่ จนกลายเป็น “ ฮัมบูร์กสเต็ก
” และ “ แฮมเบอร์เกอร์
”
ในกาลเวลาต่อมา !!!
ประการที่
๒ : ในตอนที่ กองทัพมองโกล ของ “ เจงกีสข่าน
” ยกทัพบุก ประเทศรัสเซีย
ทหารมองโกล จะกินเนื้อลูกแกะดิบที่ปั้นเป็นก้อนกลม
ที่ทำให้เนื้อนิ่มด้วยการวาง ก้อนเนื้อ
ไว้ที่ใต้อานม้า ชาวรัสเซีย
รับเอาอาหารชนิดนี้ไป และเรียกมันว่า “ ทาร์ทาร์สเต็ก ” ( รัสเซีย
เรียก ชาวมองโกล ว่า “ ทาร์ทาร์ ” ) และ ช่วงศตวรรษที่ ๑๗ รัสเซีย ติดต่อค้าขายกับ
เมืองฮัมบูร์ก และนำเอา “
ทาร์ทาร์สเต็ก ” ไปเผยแพร่
ซึ่งต่อมา ชาวเยอรมัน เปลี่ยนไปใช้
เนื้อวัว แทน เนื้อลูกแกะ และปรุงรสด้วยเครื่องเทศท้องถิ่น
เรียกว่า “ ฮัมบูร์กสเต็ก ”
ปี
ค.ศ. ๑๘๐๐ ทหารเรือชาวเยอรมัน และ ผู้อพยพ
ได้นำ
“ ฮัมบูร์กสเต็ก ” ติดตัวไปยัง
ประเทศสหรัฐแอเมริกา
ปี
ค.ศ. ๑๘๒๐ ปรากฏชื่อ “ แฮมเบอร์เกอร์สเต็ก
” เป็นครั้งแรกบนเมนูอาหารของ
ร้านอาหาร เดลโมนิโก
ที่ นครนิวยอร์ก
ซึ่งต่อมา
“
แฮมเบอร์เกอร์สเต็ก ” ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
... !!!
ช่วงต้นยุคทศวรรษที่
๑๙๐๐ ร้านอาหารใน สหรัฐอเมริกา หลายร้าน และได้มีการริเริ่มนำ
เอา แฮมเบอร์เกอร์สเต็ก มาใส่ระหว่างขนมปัง
๒ แผ่น และเรียกชื่อใหม่ว่า “ แฮมเบอร์เกอร์แซนด์วิช ”
ปี
ค.ศ. ๑๙๑๖ เจ วอลเตอร์ แอนเดอร์สัน
พ่อครัวชาวอเมริกัน ได้คิด “ ขนมปังก้อน ”
สำหรับ ประกบเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ โดยเฉพาะขึ้นมาก่อนที่ เขาจะเปิดร้านอาหาร ไวท์คาสเซิล
ขึ้นในปี ค.ศ. ๑๙๒๑
" แฮมเบอร์เกอร์ " ถูกเรียกว่าเป็น " อาหารขยะ "
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า " แอมเบอร์เกอร์ "
คือ อาหาร ที่ได้รับ ความนิยม เป็น อันดับ ๑
มา ... ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา !!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น