ผู้ชาย
: ทาสแมว
ผู้ชาย
อย่างผม !!!
... หน้าตาไม่ได้ ... หล่อเลิศ
ผู้ชาย
อย่างผม !!!
... ฐานะไม่ได้ร่ำรวยเป็น ...ไฮโซ
ผู้ชาย
อย่างผม !!! ... ไม่ได้เป็น ... เน็ทไอดอล
ผู้ชาย
อย่างผม !!!
... ไม่ได้เป็นอะไร ? ทั้งสิ้น นอกจาก ... ผู้ชายธรรมดา คนหนึ่ง !!!
แต่
ผู้ชาย อย่างผม !!! ... เลี้ยงแมว และผมเป็น
... ทาสแมว
ไม่ผิดหรอกครับ
... ผมเป็นทาสแมว !!!
จากประสบการณ์ที่เป็น
ทาสแมว มามากกว่า ๕ ปี หลังจากที่ ลูกชาย เอา โชกุน (แมวตัวน้อยอายุ
๒ เดือน) มาเลี้ยง หลังจากนั้นระยะหนึ่ง ... ลูกชาย แยกตัวออกไปเพื่อสร้าง
ครอบครัวตัวเอง
ดังนั้น
โชกุน จึงตกเป็น ภาระของผม ( ต้องเลี้ยงลูกชายอีกคน ) ...
และนั่นคือ สัญญาทาสแมว !!!
จากวันนั้น
จน วันนี้ ชีวิตผม ... มีอะไร ? บางอย่างเปลี่ยนไป !!!
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
? ก็ตาม ... ผมเชื่อครับว่า โชกุน ทำให้ผมเปลี่ยนไป !!!
ทำไม
? หรือครับ ... !!!
เลี้ยงแมวแล้ว
... ไอคิวดี !!!
ใช่ครับ
... ฉลาดขึ้น
เคยมีบทงานวิจัยที่
นักสัตว์ศาสตร์ บันทึกไว้ว่า ... ผู้ชายเลี้ยงแมวจะมีไอคิวสูงขึ้น !!!
เพราะ
แมว ชอบที่จะเข้ามานัวเนียสัมผัสแนบชิด ทำให้เป็นการเพิ่ม ฮอร์โมนแห่งความสุข
ให้ ทาสแมว (ผู้สัตย์ซื่อ) ไปในตัว : และเมื่ออารมณ์ดีแล้วสมองก็จะแจ่มใส
... ความคิดสร้างสรรค์ก็จะกว้างไกล ด้วยเช่นกัน !!!
เลิกทำตัว
... เสเพลแมน
กิจกรรมที่
โชกุน โปรดปรานที่สุดก็คือ นอนเลียขนอยู่กับบ้าน
ปัจจุบันผมก็เป็นเหมือนกัน
(อยู่บ้านนะ ...ไม่ใช่เลียขน) เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยคบ : ไม่ต้องห่วงเลยว่า
... ผมจะหนีไปเที่ยวสถานที่ อโคจร ที่ไหน
? แค่ได้นอนกลิ้งเล่นกับ โชกุน
... ในบ้านแค่นี้ก็พอ !!!
เดาอารมณ์
... เก่งขึ้น !!!
ทายใจ
... แม่นยำ
ความซับซ้อนทางอารมณ์ของ
โชกุน นี่เป็นหนึ่งในใต้หล้าเลยครับ
ทาสแมว
อย่างผม เลยต้องเก่งใน เกมทายใจแมว ทุกวัน : ตอนนี้
ไม่ต้องพูดอะไรมาก ... ก็เข้าใจ และไม่ว่า ใคร ? จะมาอารมณ์ไหน ? รับรอง ... ผมรับได้หมด ก็ขนาด แมวจ้าวอารมณ์
ผมยังเอาอยู่เลย !!!
เป็นตัวของตัวเอง
... ตลอด !!!
มีตัวตน
... มากขึ้น
จุดยืนของ
โชกุน คือ ... THE REAL ONE ซึ่งก็คงไม่ต่างจาก
ทาสแมว
ผมเป็นคนที่มีความเป็นตัวตนสูงมาก
อาจจะเรียกว่า แอนตี้สังคม ก็ว่าได้นะ : แต่พอมาเป็นทาสรับใช้แมวเต็มเวลา จาก ...
แอนตี้สังคม ก็ กลายเป็น กบฏสังคม ไปเลย !!!
ความสัมพันธ์
... ยั่งยืน !!!
รักไม่มี
... เปลี่ยนแปลง
ตามธรรมชาติ
... ไม่มีแมวตัวไหนชอบเปลี่ยนเจ้าของ โชกุน ก็เหมือนกัน
และแน่นอน
ทาสแมว ย่อมไม่ทำให้ นายทาส ผิดหวัง ตอนนี้ ... วันนี้ รับรองว่าไม่มีวันที่
ผม จะแอบไปมีกิ๊กอย่างแน่นอน : เรียกว่า
รักใครแล้วรักจริง ... ไม่เปลี่ยนแปลง !!!
เปลี่ยนใจ
... ยากยิ่ง !!!
มั่นคง
... จีรัง
โชกุน
เป็น แมวจอมกวน หัวดื้อ เจ้าอารมณ์ แสนงอน เอาแต่ใจ สารพัด และอะไร ๆ อีกหลากหลาย
แต่ผมก็ยังคงเป็น
ทาสแมว ผู้สัตย์ซื่ออย่างไม่มีแปรผัน : โชกุนคือโชกุน
หรือเป็นเพียงแค่ ใคร ? เป็น ใคร ? ... เท่านั้นพอ !!!
โลกส่วนตัว
... สูง !!!
เข้าถึง
... ยาก
มี
บางมุมส่วนตัว ที่ โชกุน ไม่ยอมให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ทาสแมว
ก็เหมือนกัน ผู้คนเลยเข้าใจยาก : บทเงียบ ... ใบ้สนิท / แต่บทดี ... ก็ดี จนน่าใจหาย ไม่จำเป็นที่ใคร ? จะต้องมา
สนใจ แค่ตอนนี้ยอมรับว่ามันเป็น นิสัยของผม เท่านั้น ... ก็พอ !!!
ครับ
!!!
นั่นคือ คำสารภาพ ของ ทาสแมว !!!
ที่ขอยืนยัน
ณ ตรงนี้ ว่า “ ....
ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ”
เรื่องเล่าจากวันวาร
ตอน ด้วย ๒ มือ ดินสอ สู่ คีย์บอร์ด
สมัยดึกดำบรรพ์
มนุษย์ ในยุคนั้นยังไม่มี ภาษา เป็นของตัวเอง
... แต่พวกเขาก็รู้จักที่จะวาดรูปร่างต่างๆ โดยอุปกรณ์เริ่มแรกที่ถูกนำมาใช้คือ แท่งไม้
หรือ ก้อนหิน เอามาขูดกับผนังถ้ำ เป็นภาพต่างๆ เวลาต่อมา มีการนำเอา ไม้ปลายแหลม
มาสร้างรอยบนดินเหนียว
๓๐๐๐
ปีก่อนคริสตกาล คนอียิปต์ เป็น ชนชาติแรก ที่คิดค้น กระดาษ ขึ้นมา
โดยทำจากต้นกกซ้อนกันเป็นแผ่น เรียกว่า ปาปิรุส และเขียนโดยใช้ ก้านไม้ตัดปลายแหลม
จุ่มหมึกเขียนลงบนกระดาษ
วิธีนี้
ถูกนำไปใช้จนแพร่หลายไปทั่วยุโรป แต่ ปาปิรุส มีข้อเสีย
คือเมื่อหมึกแห้งแล้ว กระดาษจะเปราะ พับไม่ได้ ทำให้ต้องใช้การม้วน แผ่นปาปิรุส เพื่อเก็บรักษาแทน
๑๒๐๐
ปีก่อนคริสตกาล ประเทศจีน ใช้ แปรง ที่ทำจาก ขนสัตว์
จุ่มหมึกหรือสีจากธรรมชาติแล้ววาดลงบนใบไม้ใหญ่ๆ หรือใช้ ของแหลม แกะสลักลงบนไม้หรือกระดูกสัตว์
แล้วทาสีลงในร่องให้เห็นชัดขึ้น
๓
ปีก่อนคริสตกาล เริ่มมีนำเอา หนังสัตว์ มาใช้แทน กระดาษปาปิรุส แต่ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร
ปี
ค.ศ. ๖๐๐ ชาวกรีกโบราณ ประดิษฐ์ปากกาจาก
ต้นกกไส้กลวง ปากกานี้ไม่ใช้หมึกแต่จะเขียนบนผิวไม้ที่เคลือบขี้ผึ้งทำให้เกิดรอยเป็นตัวอักษรบนผิวขี้ผึ้ง
ต่อมาจึงมีการนำ ขนนก หรือ ขนห่าน
มาทำปากกา เรียกว่า ปากไก่ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการเขียนหนังสือของชาวตะวันตก
ในขณะที่ชาวตะวันออกยังนิยมใช้ พู่กัน
แต่ทั้ง
ปากไก่ และ พู่กัน จำเป็นที่จะต้องจุ่มหมึกทุกครั้งที่เขียน ทำให้เกิดไม่สะดวก
แม้ว่า
ประมาณศตวรรษที่ ๑๕ จะเริ่มมีการใช้ ปากกาที่มี ปากเป็นโลหะ และ มีรอยผ่าตรงกลางปาก
ทำให้เขียนได้นานโดยไม่ต้องจุ่มหมึกทุกครั้งที่เขียนก็ตาม
ปี
ค.ศ. ๑๗๑๔ เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องแรก
ถูกสร้างขึ้นในประเทศอังกฤษ สร้างมาเพื่อทำเอกสารทางกฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
แต่ไม่เป็นที่แพร่หลายนัก
ปี
ค.ศ. ๑๘๐๘ ลาร์ฟ เวดจ์วูด กับ เปลเลกริโน่ เทอร์รี่ สร้างอุปกรณ์คัดลอกเอกสาร เรียกว่า
Stylographic Writer โดยนำ กระดาษคาร์บอนมาใช้แทนหมึก และใช้แท่งเหล็กแทนปากกาขนนก
ปี
ค.ศ. ๑๘๒๒ มีการประดิษฐ์ ดินสอ ที่ทำจากแท่งกราไฟต์ ขึ้นมา โดย ไส้ดินสอ
จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางหนากว่าดินสอแบบปัจจุบัน
ปี
ค.ศ. ๑๘๒๙ วิลเลียม ออสติน สร้างเครื่องพิมพ์ดีดที่เรียกว่า Typowriter
แต่ไม่ได้มีปุ่มให้กด เขาสร้างเหมือนโทรศัพท์แป้นหมุน ทำให้การพิมพ์งานช้ากว่าเขียน
ปี
ค.ศ. ๑๘๔๖ คอมพิวเตอร์เครื่องแรกถือกำเนิดในชื่อ ENIAC
มีขนาดใหญ่มาก
กินพื้นที่เกือบทั้งห้อง วิธีการป้อนข้อมูลของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้เรียกว่า Teletype
คือ สร้างบัตรข้อมูลที่เกิดจากการเจาะรูเป็นจุดๆ
แล้วเอาเข้าเครื่องอ่าน
ปี
ค.ศ. ๑๘๖๕ Hansen Writing Ball ถูกสร้างขึ้นโดย สาธุคุณแรสมัส เป็น เครื่องพิมพ์ดีดเครื่องแรกที่ทำงานได้สมบูรณ์
และมีดีไซน์ล้ำยุค ซึ่งเรียกความสนใจในยุโรปและอังกฤษได้เป็นอย่างดี
ปี
ค.ศ. ๑๘๖๘ บริษัท เรมิงตัน ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดที่ใช้ได้อย่างจริงจังเครื่องแรกของโลก
ปี
ค.ศ. ๑๘๘๔ Lewis Edson Waterman ได้ผลิตปากกาที่มีหมึกในตัว
เรียกว่า ปากกาหมึกซึม (Fountain pen) ที่ นิวยอร์ก
ประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้น จึงอาจจะกล่าวได้ว่า Waterman เป็น
บิดาแห่งปากกาหมึกซึม
ในปี
ค.ศ. ๑๙๐๐ ปากกาหมึกซึม พบคู่แข่งคือ ปากกาลูกลื่น เป็น ปากกาที่มีลูกกลิ้ง
(Ball)
กลมๆ เล็กๆ อยู่ที่ปลายปากกา เวลาเขียนลูกกลมๆ เล็กๆ นี้จะหมุน
(กลิ้ง) ทำให้หมึกออกมาติดบนกระดาษ ปากกาชนิดนี้เกิดขึ้นมาประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว
โดยชาวอเมริกัน จอห์น เอช. ลาวด์
ปลายปี
ค.ศ.๑๙๓๐ นักหนังสือพิมพ์และศิลปินชาวฮังกาเรียน ชื่อ ไบโร เขาเกิดแนวความคิดจาก
หมึกแห้ง ที่ช่างพิมพ์ในโรงพิมพ์นั้นใช้พิมพ์หนังสือมาบรรจุลงในปากกา
โดยที่หมึกจะไม่ไหลและหยดออกมาจนเปื้อนกระดาษ
ปี
ค.ศ. ๑๙๖๔ Bell Labs ร่วมมือกับสถาบัน
MIT สร้าง MULTICS คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มีการแสดงผลบนหน้าจอ
(VDT) และใช้วิธีการป้อนข้อมูลด้วย คีย์บอร์ดไฟฟ้า
คีย์บอร์ดรุ่นแรกๆ นั้นเป็นคีย์บอร์ดที่สร้างเพื่อการใช้งานอย่างเดียว
จึงมีวัสดุที่ทำจากเหล็กทำให้หนัก
และไม่ได้ตกแต่งภายนอกหรือทำเพื่อความสวยงามมากนัก
ปี
ค.ศ. ๑๙๘๑ IBM ผลิต PC เครื่องแรกเพื่อให้คนทั่วไปใช้
ปี
ค.ศ. ๑๙๘๔ IBM ผลิตคีย์บอร์ดที่เรียกว่า
Model M คีย์บอร์ดสำหรับคนทั่วไป ใช้ป้อนข้อมูลกั บคอมพิวเตอร์
โดยออกแบบมาให้ใช้ได้สะดวก แม่นยำ
ปิดฉาก เรื่องเล่าวันวาร วันนี้ !!!
ด้วย ... ทุภาษิตของหลวงตา ที่ว่า ...
สาคู นิกกํ ธัมม โอชะจัง ... เอวัง
แปลว่า " สาคู น้ำกระทิ อร่อยจัง หมดแล้ว"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น