วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เรื่องเล่าจากวันวาร ตอน เนกไท


แฟนฉัน ... ( ที่ไม่ใช่ หนัง ) 


อัน ... นินทา กาเล เหมือน เทกรวด              ไม่เจ็บปวด เหมือนเอา ตูด ... ไปถูหิน
ถ้าพรหมจารีของเด็กสาว ... มีมลทิน             จะกี่ลิ้น กี่ลิ้น ก้อ ... นินทา !!!    
    
ครับ ! วันนี้ ผมมีเรื่องของ คนเป็นแฟนกัน มาเล่าให้ฟัง
อ๋อ ! แน่นอนครับ ... มันไม่ใช่เรื่องของผม แต่ผมเห็นว่า เรื่องมันแปลกดี ก็เลย ... เก็บเอามา เล่าสู่กันฟัง เผื่อที่ว่าบางทีนะครับ ใครหลาย ๆ คน อาจจะประสบปัญหาแบบนี้ได้เช่นกัน

ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ...  เมื่อวันก่อน  ไอ้เจี๊ยบ ( คนรู้จักกัน ... ขาใหญ่สิงห์มอไซค์รับจ้างปากซอย )  มันมาหาผมที่บ้าน แล้วบอกว่าตอนนี้ มันรักคุด อกหัก เพราะ มันบอกเลิกกะแฟนมัน ตอนนี้มันเลยออกอาการ เศร้า เหงา วังเวง วิเวก วิเหวโหว ไม่มีกะใจ จะทำอะไร ?
แล้วก็ระบายความในใจ ( นินทาแฟน ) ให้ผมฟัง ... จากนั้นมันก็เบิ้ล มอไซค์ หายไปไกลลับตา
ปล่อยให้ผม ... ยืนงงเป็น ไก่ตาแตก อยู่ตรงนั้น !!!
( เพราะตั้งแต่มันมาจนมันจากไป ... ผมไม่ได้พูดอะไร ? ซักกาคำเดียว )
ผมก็เลยเก็บเอาเรื่องที่มันเล่ามาให้ฟังกัน ... มันบอกว่า  !!!

แฟนของมัน ...

วัน วัน มันมัวแต่ ... ชอปปิ้ง                       
พออยู่นิ่ง มันก็แดก ... แปลกเหลือหลาย
มัก เลือกแดกแต่ของดี ชิกเก้นฟราย          
โธ่ ! อีควาย มึงกินแหลก แปลกพิกล
                                    ชอบแจกยิ้ม ไปทั่ว ... เผื่อใครสน               
                                    สัปดน มึง เมารั่ว ... มั่ว ชิ-หาย
                                    แถมชอบ ดูละครน้ำเน่า นั่งฟูมฟาย             
                                    ชอบ นอนดึก ตื่นสาย เป็นประจำ
สุขของมันอยู่แต่ ร้าน ... ขายเสื้อผ้า           
หิ้วพราด้า ของปลอมชอบนักหนา
มันสวยเช้ง ทุกเมื่อ ... ทุกเวลา                   
แถม สับขาขั้นเทพ ... ตรูแปลกใจ
                                    พอมันเบื่อ มันก็เพียรเข้า เฟดบุ๊ค                 
                                    คุยสนุก คุยกันมัน คุยหลากหลาย
                                    แต่งหน้าไป อัพเฟดไป สุดสบาย                
                                    ผู้ชายมีฐานะ ... มันบอกดี
แล้วทีนี้มันมี มือถือใหม่ ... เอาล่ะซี              
ตรูเป็นหนี้แทบตาย ... มึงรู้ไหม ?
คิดว่า ผ่อนหมดหนี้ ... จะคลาดคลาย                
โธ่ ! อีห่า ตาลาย ไม่รั้งรอ
                                   พอมึงมี ... สิวเต็มหน้าไปหาหมอ                     
                                   โอ้ละหนอ ... ทำหน้าไปหมดเป็นแสน
                                   มันไม่เคยบอกใคร ... ตรูเป็นแฟน                      
                                   คิดแล้วแค้น เวรตะไล ไข้ ... ขึ้นเลย
มัน รักนวลสงวนนม ... โตเป็นเต้า                     
ได้แต่เฝ้า แอบฝันว่าจะ ... ได้เห็น
แต่ความจริงฝันสลาย ... ไปไม่เป็น                      
ไม่ได้เห็น แม้เนินอก ตกกระได
                                   มันนิยม ชอบชม เเฟนคนอื่น                              
                                   ทำสดชื่นต่อหน้าตรู ... ไม่เห็นสม
                                   ทำเป็น ยิ้มเปื้อนหน้า ... ตาใสกลม                                          
                                   ตรู อกตรม หน้าเศร้า น้ำตานอง
เป็น แม่พระตอนแรก ตรูว่าแล้ว                          
คงไม่แคล้ว อกหัก เป็นซ้ำสอง
ซื้อของแพง มึงยังให้ตรู ... ต่อลอง                      
เพื่อนมันมองเห็น ตรู ... โง่เป็นควาย
                                   ต้องรีบชิ่ง หนีหน้า หลบหนีหาย                          
                                   ถ้าไม่ตายไปเสียก่อน ... ไม่ได้เห็น
                                   ถี่ลอดตาช้าง ... ห่างมันก็ ...รอดตาเล็น                 
                                   รักไม่เป็น เห็นอยู่ ... ตรูเกือบตาย
อยากขอเตือน ชายคนอื่น ยังไม่สาย                    
จะเป็น ควายอีกคน ... ทำไมหนอ ?
มันมีหนึ่ง แล้ว คบซ้อน ... ยังไม่พอ                      
ได้แต่ขอ ลาก่อน ... ขอไปที !!!                      

เรื่องเล่าจากวันวารตอน เนกไท


ศตวรรษที่ ๑ ก่อนคริสตกาล ทหารโรมัน จะใช้ผ้าชุบน้ำพันคอ เพื่อบรรเทาความร้อน อันเป็นจุดเริ่มของ เนกไท

ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE

ปี ค.ศ. ๑๖๓๕  ภายหลังศึกสงคราม ใน ยุคล่าอาณานิคม ของประเทศฝรั่งเศส ทหารโครแอต จำนวน 6,000 คนได้ไปเข้าเฝ้า พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๓ แห่งฝรั่งเศส  โดย ทหารโครแอต ได้ผูก ผ้าพันคอสีแดง รูปโบว์ ไว้รอบลำคอ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการฉลองชัยชนะที่มีต่อชาวเตริกส์

ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE


และเมื่อ พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๓ ทอดพระเนตรเห็นผ้าพันคอสีแดงของเหล่าทหารโครแอต รู้สึกพอพระทัย และนำเอามาใช้  ผูกพระศอเป็นปมตรงกลางด้านหน้า และ ปล่อยชายยาว เรียกว่า CRAVAT โดยเพี้ยนมาจากคำว่า CROAT และต่อมา CRAVAT ได้รับความนิยม และแพร่หลายมาสู่ บรรดาพสกนิกร จึงอาจจะเรียกได้ว่า พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๓  เป็นผู้บุกเบิกแฟชั่น เนกไท

ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE

ต่อมา CRAVAT แพร่หลายไปถึงประเทศอังกฤษ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๒ แห่งอังกฤษ ทรงโปรดปรานผ้าพันคอลูกไม้ราคาแพง ในยุคนั้น ผู้ชายมีค่านิยมว่า ต้องผูกผ้า ที่มีค่าสูงมากที่สุด เพื่อที่จะได้มี บุคลิกที่สง่างามสมความเป็นชายชาตรี 

ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE

ที่ประเทศอังกฤษ นี้เองที่ CRAVAT เกิดความนิยมอย่างสูงสุด โดยการนำของ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๒ และเผยแพร่ไปสู่ พสกนิกรชาวอังกฤษ ซึ่งได้ทำให้เกิดความหลากหลายของ CRAVAT ไม่ว่าจะเป็น วิธีผูกผ้าพันคอ หรือ ชนิดผ้าพันคอ ที่มีความหลากหลายขึ้น นับเป็นช่วงที่วงการแฟชั่นเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

แม้ก่อนหน้านั้น ในปี ค.ศ. ๑๖๖๕  จะเกิด โรคระบาด ขึ้นที่ กรุงลอนดอน และ ในปีถัดมาเกิด ไฟไหม้ครั้งใหญ่แต่ แฟชั่นผ้าผูกคอ กล่าวได้ว่าแพร่ระบาดรวดเร็วพอ ๆ กับ ไฟลามทุ่ง ทีเดียว

ปี ค.ศ. ๑๙๒๔  การผูก ผ้าพันคอ CRAVAT ได้เกิดวิวัฒนาการผูกใหม่และเป็นการเปลี่ยนแปลงจาก CRAVAT มาเป็น เนกไท เมื่อ เจสส์ ลองส์ดรอฟว์ ( Jesse Langsdorf )   ช่างตัดเสื้อชาวอเมริกัน ได้ออกแบบผ้าพันคอ โดยการตัดผ้าเฉียง ๆ ทำให้การผูกสะดวกและสามารถปรับความสั้นยาวของผ้าพันคอ ได้เมื่อผูกปมเสร็จแล้วและเขาได้จดสิทธิบัตรไว้

จนใน ปี ค.ศ. ๑๙๕๐  เนกไท ได้รับความนิยมสูงสุด จนเป็นที่มาของประโยคที่ว่า ....  
" A man wasn't fully dressed until he had put on his tie."  
" ผู้ชายยังแต่งตัวไม่เต็มที่ถ้าไม่ได้ผูกไท"

ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE

เนกไท เริ่มกลายเป็นแฟชั่นใน ปี ค.ศ.  ๑๙๗๐ โดย ลาร์ฟ โลว์ลองก์ ( Ralph Lauren ) ห้องเสื้อชื่อดังแห่งอเมริกาได้ออกแบบเนกไทที่มีความกว้าง ๑๐ เซนติเมตร
ปี ค.ศ. ๑๙๘๐  มีการวาดและพิมพ์งานศิลปะของศิลปินลงบนเนกไท

ทุภาษิต ... ปิดท้ายวันนี้ :
ดูกรกุมารา คราวหน้าโปรดจำเอาไว้ว่า
เนกไท ผูกเงื่อนแบบสบาย ๆ ต้องไม่ผูกด้วย ... เงื่อนตาย !!!
ไม่อย่างนั้น ... พรุ่งนี้ คุณอาจจะไม่ได้ ผูกเนกไท อีกเลย ....

ไม่มีความคิดเห็น:

คนไม่มี ค. ว. และ ย.

คนไม่มี  ค. ว. และ ย.   หยุดคิดเสียก่อน ... ก่อนตัดสินใจ ผมดูท่าว่า ... มัน จะไปกันใหญ่แล้วนะครับ ... !!! กับ สารพัดเรื่องราวที่เ...