สักวาหน้าฝน
ฝนตก
แดดออก ...
นกกระจอกเข้ารัง พ่อแม่ใส่เสื้อ
ถ่อเรือ ... ไป กู้แบงก์
ฝนตก
ชาวกรุงเทพฯ แช่ง ฝนแล้ง ชาวนา
เขาก็ด่า มนุษย์ขี้เหม็น ...
เคี่ยวเข็ญ เทวดา !!!
เมืองไทย
วันนี้ ... เข้าสู่ ฤดูฝน
อย่างเป็นทางการแล้วนะครับ บอกลา ฤดูร้อน ไปซะ ... !!!
ปีหน้าค่อยจรลีกลับมาพบกันใหม่
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
รับ
ฤดูฝน เปียกแฉะ ด้วย ... ร่ม หรือ
ผ้าพลาสติก หมวก เสื้อกันฝน รองเท้ายาง
และที่สำคัญ ถุงกันน้ำ ติดตัว
หรือ ติดรถเอาไว้ เท่านี้เอง คุณก็จะได้
... ไม่เปียกฝน !!!
เคยได้ยินผู้ใหญ่หลาย
ๆ คน เขาบอกกันต่อ ๆ มาว่า ... ฟ้า หลังฝน มักจะ สดใส แต่ผมว่า หลังฝนตก ถนนทุกสาย
โปรดระวัง ... น้ำรอระบาย และ
แน่นอนที่สุด หลังฝนตก ... รถติด !!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
ช่างฟ้า
ช่างฝน ไปเถิดครับ ... อย่าไปมัวเสียเวลา ... โทษฟ้า โทษฝน โกธรลม เกลียดน้ำ หรือ ... ด่าทอเทวดา ต่อว่าพระพิรุณ ให้
เสียอารมณ์เลยครับ เพราะมันเป็นเรื่อง ...
ธรรมชาติ !!!
จะร้อน
หรือ จะหนาว จะฝน หรือ จะแดด ... ปล่อยให้มันเป็นไปตาม ... ธรรมชาติ !!!
เพราะอะไร
? รู้ไหมครับ ... !!!
เพราะว่า ... “ ฝนตก ขี้หมูไหล คน ( อะไร ? )
มาเจอกัน ”
มาเข้าเรื่องดีกว่าครับ
... กับ สักวาหน้าฝน !!!!
( จบมันดื้อ ๆ ตรงนี้แหละครับ .... )
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
สักวา
... หน้าฝน ทนหนาว ... เหน็บ โดนเมียด่าว่า เรื่องเจ็บ ... เข็ด
ชิ-หาย
แค่
ฝนตก มา ๒ แหมะ แฉะจะ ... ตาย มันด่าว่าเป็น
... ควาย วายชีวา
ถ้า
ฝนตก มากกว่านี้ ... ไม่อยากบอก มันต้อง
ตอก ให้กรู อาย ... หมู หมา
พอ
ฝนตก มาสักที ... แสนระอา โธ่
!
... อีห่า ฝนมันตก ดัน ... ตกใจ !!!
สักวา
... หน้าฝน ทนเปียก ... แฉะ โดนเมียแซะ กระแนะแหน ... ไปถึงไหน
แค่
ฝนตก มาแค่นี้ ... ช่างกะไร บอกใคร ใคร ...
ฟ้ามันรั่ว มั่วไป ... มึง
เที่ยวไป
ส่อง ร่องรู ดู ... สังกะสี ว่ามันมี
รูรั่ว น้ำฝนไหล .. ที่ตรงไหน
เอา
พลาสเตอร์ปิดแผล .. ปิดทับไป โธ่
!
...อีห่า อีจัญไร ใคร ? ... ทำกัน !!!
สักวา
... หน้าฝน ทนอับ ... ชื้น โดนเมียด่า หน้าระรื่น ... ตื่นตอนสาย
แค่
ฝนตกหนักลงมา เมื่อวานซืน มันยังยืน ยื่นหน้าด่า
... หน้าไม่อาย
ถ้าวันนี้ ฝนยังตก ถึงตอน บ่าย คงไม่วาย โดน มึงด่า เป็น ... ซ้ำสอง
ตื่นขึ้นมา
ฝนมันตก.. น้ำท่วมนอง โธ่ ! ... อีห่า ดวดยาดอง ... เมาแทบตาย !!!
สักวา
... หน้าฝน ทนร้อน ... ตับแทบแตก โดนเมียด่า ดันแดก ... แสบ เหลือหลาย
แค่
ฝนตก ลงมา ... น้ำกระจาย พรูเป็นสาย
สาดกระเซ็น เปียก ... ทั้งตัว
นี่แค่
ฝนปลายหน้าร้อน ... ต้นหน้าฝน สัปโดก สัปดน โอ้ ... ละหนอ
พอฝนตกเต็มท้องฟ้า
อ่องลออ โธ่ !
... อีห่า ทำหน้างอ ทำไม ? ... มึง !!!
***
หมายเหตุ: จบมันด้วน ๆ แบบนี้แหละครับ !!!
เรื่องเล่าเมื่อวันวาร
ตอน
ขนมฝรั่งกุฎีจีน
“ อ้อยจีนบางใหญ่ ... อ้อยไทยบางโคกวัด
... ข้าวหลามตัดวัดระฆัง ... ขนมฝรั่งกุฎีจีน ... แม่เอ๊ย ”
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
ขนมฝรั่งกุฎีจีน เป็น ขนมโบราณ ที่ มีประวัติยาวนานนับเนื่องมาตั้งแต่
กรุงธนบุรี เป็นราชธานี โดยเป็นขนมที่อยู่คู่มากับชุมชนกุฎีจีน
ชุมชนของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกส ขนมฝรั่งกุฎีจีน ได้รับอิทธิพลมาจาก ขนมโปรตุเกส เช่นเดียวกับขนม
ไทยหลายอย่าง เช่น ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง หรือลูกชุบ ตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง
ใน รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดย
ท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
ชุมชนกุฎีจีน
มีประวัติความเป็นมากว่า ๒๐๐ ปี
ย้อนกลับไปครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราช
และ สถาปนากรุงธนบุรี ขึ้น
โดยที่พระองค์ได้รวบรวมเหล่าไพร่พลที่กระจัดกระจายหลังจากศึกสงคราม ทั้งชาวไทย
ชาวจีน และชาวโปรตุเกส และ พระราชทานที่ดินบริเวณใกล้เคียงกับโบสถ์ซางตาครู้ส
โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทางด้าน ฝั่งธนบุรี ให้เป็นที่อยู่อาศัยโดยผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ล้วนแตกต่างกันด้วย
ความคิด เชื้อชาติ วัฒนธรรม และ ศาสนา
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
การที่กลุ่มคนหลากเชื้อชาติมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย
ทำให้เกิดซึมซับเอาวัฒนธรรมของไทยเอาไว้ แต่วัฒนธรรมเชื้อชาติเดิมยังคงหลงเหลืออยู่
โดยเฉพาะในด้านอาหารการกิน เห็นได้จากการสืบทอดการทำ ขนมฝรั่งกุฎีจีน
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
แต่เดิมนั้น
ขนมฝรั่งกุฎีจีน จะทำกันเฉพาะใน ช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา และแจกจ่ายรับประทานกันเองในครอบครัวหรือชุมชน
เช่น เทศกาลคริสต์มาส ต่อมา เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จึงมีการทำออกมาขายในท้องตลาด
จนกลายเป็นที่รู้จักกันมาถึงวันนี้ !!!
ปิดฉากวันนี้กันด้วย
ขนมฝรั่งกุฎีจีน สักชิ้น และ น้ำเต้าหู้นมสด
ร้อน ๆ สักแก้ว !!!
แค่นี้
... ก็พร้อมออกไปลุย น้ำรอระบาย บนถนน ... หลังฝนตก แล้วครับ
おやすみなさい。( โอยาสุมินาไซ : ราตรีสวัสดิ์ ) .... ครับ !!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น