เรื่องเล่าจากวันวาร
เรื่องเล่าจากวันวาร ในวันนี้ เปิดหัวกันด้วย เรื่องราวของ คุณสุวรรณ เชื่อกันว่าหลายคนคงจะพอรู้จักกันท่านกันเป็นอย่างดี เพราะท่านคือ สุดยอดกวีหญิงเอก แห่ง สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ประพันธ์บทละครเรื่อง พระมเหลเถไถ และ อุณรุทร้อยเรื่อง รวมไปถึง เพลงยาวเรื่องหม่อมเป็ดสวรรค์ และเพลงยาวเรื่อง พระอาการประชวรกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ
คุณสุวรรณ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2352 ที่อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นธิดาคนที่ 7 ในบุตร/ธิดา 8 คนของ พระยาอุไทยธรรม (กลาง ณ บางช้าง) กับ คุณหญิงน่วม (สกุลเดิม วสุธาร)
เมื่อเจริญวัย บิดามารดา ได้ถวายตัวให้รับราชการฝ่ายใน สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
คุณสุวรรณ มีอุปนิสัยใจรักการแต่งกลอนมาแต่ยังเด็ก ได้ถวายตัวทำราชการฝ่ายในตามเหล่าสกุล ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 อยู่ที่ตำหนัก พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ คุณสุวรรณได้แต่งเพลงยาวทำนองเป็นจดหมายเหตุบันทึกเหตุการณ์ขึ้น 2 เรื่องคือ เพลงยาวเรื่องหม่อมเป็ดสวรรค์ และเพลงยาวเรื่องพระอาการประชวรของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เพลงยาว 2 เรื่องนี้มีการบันทึกเรื่องราวของหญิงชาววังไว้เป็นอย่างดี รวมถึง "การเล่นเพื่อน" ของหญิงชาววังด้วย
ต่อมาเมื่อ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ สิ้นพระชนม์ลงในปี พ.ศ. 2388 ทำให้ข้าหลวงในพระตำหนักต้องย้ายออกจากพระตำหนักแดงตามธรรมเนียม ในตอนนั้น คุณสุวรรณ อายุได้ 36 ปี ไม่ปรากฏทำงานในตำแหน่งใด พำนักอยู่ในเรือนนอกในฝ่ายใน ยังคงได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ 1 ชั่ง กับ 5 ตำลึง
จนในสมัย พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 คุณสุวรรณป่วยเป็น "พิกลจริต" ได้ลาออกจากราชการ กระนั้นยังได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ 5 ตำลึง พำนักกับคุณเขียน ธิดาคุณศรี และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2418 สิริอายุได้ 67 ปี ตอนต้นรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหีบทองทึบใส่ศพเป็นเกียรติยศ
งานประพันธ์ของคุณสุวรรณ เท่าที่พบและได้รับการยอมรับ มีเพียง 4 เรื่อง คือ กลอนเพลงยาวเรื่องหม่อมเป็ดสวรรค์ กลอนเพลงยาวเรื่องพระอาการประชวรของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ บทละครเรื่องพระมะเหลเถไถ และบทละครเรื่องอรุณรุทร้อยเรื่อง
โดยใน 2 เรื่องหลังนี้ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวว่า "เป็นบทบ้าแต่งมิใช่บทละครอย่างปรกติ"
บทละครเรื่อง พระมเหลเถไถ มีความแปลกคือ คุณสุวรรณ แต่งเป็นภาษาบ้าง ไม่เป็นภาษาบ้างปนกันไปแต่ต้นจนปลาย แต่ใครอ่านก็เข้าใจความได้ตลอดเรื่อง
บทละคร อุณรุทร้อยเรื่อง นั้น คุณสุวรรณ จับเอาตัวละครเอก ใน วรรณคดีเรื่องดังต่าง ๆ มาร้อยรวมในเรื่องเดียวกัน การดำเนินเรื่องค่อนข้างเลอะ แต่สำนวนกลอนและการแสดงความรู้เรื่องละครต่าง ๆ กว้างขวาง...แต่มีอยู่บท 1 ในอุณรุทร้อยเรื่องของคุณสุวรรณซึ่งควรสรรเสริญในกระบวนความว่าเป็นความคิดแปลกดี คือ บทจำแลงตัว
นอกจากบทละคร 4 เรื่องข้างต้นยังปรากฏต้นฉบับสมุดไทย ที่ระบุผู้แต่งคือคุณสุวรรณ ใน หอสมุดแห่งชาติ คือ บทละครเรื่องพระเอ็ดยง และ บทละครเรื่องพระพิรุณ อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นการยืนยันว่าเป็นผลงานของคุณสุวรรณจริงหรือไม่
ปิดท้าย เรื่องเล่าวันนี้ ด้วย
ทุภาษิตคำกลอน ... ที่คนเขียนคำพร่ำพรรณาบทกลอนนี้ขึ้นมา คงจะไม่มีสติสตังค์มากเท่าไหร่นัก เพราะหากใคร ? บอกว่าไพเราะ ก็ยกยอกันมากเกินไป ... แต่หากมีใคร ? บอกว่า ไร้สาระ ไม่ได้เรื่อง ก็แล้วแต่ละกัน ... เพราะ อยากจะเขียน ใคร ? จะทำไม ?
ทุภาษิตคำกลอน ตอนที่ 1
ทุภาษิต สํานวนกวน ชวนปวดหัว ไม่มั่วซั่ว ขอยืนยัน ... ตามคำสอน
!!!
นำไปใช้ ก็ไม่ได้ ... ขอวิงวอน อย่าไปสอน ไปสั่งใคร ... ใคร่ขอเตือน !!!
ทุภาษิต สำนวนเป็นเสมือน ล้อกับเพื่อน ...
คุยกันกระหนุงกระหนิง
นำไปใช้ไม่ได้ผล บอกจริง จริง
เพราะทุกสิ่งที่คุยกัน ... มันสะตอ
ทุภาษิต มีบอกให้ ... เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน !!! ฉันขี้คร้านเก็บไปหลายสลึง
ไม่ถึงบาดขาดส่ง ตื่นตะลึง ไม่เท่าครึ่งของดอก .... เจ็บปวดใจ
ให้หนาวเหน็บเจ็บกระดูกไปถึงไข ไม่เฉไฉ ไม่หนีหรอกบอกวะเหวย
เพราะไม่มี ก็ไม่หนี ชะเอิงเอย ... นั่งเฉย ๆ อยู่ตรงนี้ ... เจ้าหนี้ตรึม
ขอนอนหลับ จับเจ่าเขย่าจิต มัวนั่งคิด นั่งฝัน
... ทำไม ? หวา
!!!
ฝนจะตก แดดจะออก !!!
กรอกลูกตา นี่แหละหนาคือ ... กบใต้บัวบาน !!!
ที่น้ำขึ้น ดอกบัว ยังโผล่ผลุบ นั่งจุมปุ๊ก
อยู่ทำไม ? ตรงไหนหนอ
เขาเอ่ยปากขอร้องให้นั่งรอ ดันสอพลอ อ้าปากหวอ
... หงอเซียงซือ
อย่าทำตัวเป็น ไก่ที่รองบ่อน !!! นั่งหลบซ่อนอยู่ในหลืบ ... มืดตื๊ดตื๋อ
ใครไม่เห็น ใครไม่เป็น ... เหม็นสะดือ
นี่น่ะหรือคือ คนงาม เขาชมกัน
ก็ ไก่งามเพราะขน !!! ดูเห็นสม
นั่งดอมดมธูปหอม ... ไร้เดียงสา
เกลือเป็นหนอน !!! พูดไปให้ระอา ...
เค็มตายห่า ดันตักเกลือใส่กาแฟ
รสขม ๆ มัน ๆ เค็มประแหล่ม บอกป้าแช่ม
ช่วยกันอย่าสุงสิง
ไม่นิ่งเฉย อยู่เปล่า เปล่า ไม่ประวิง
เหมือนกับ ... ขิงยิ่งรา ข่ายิ่งแรง !!!
ถ้า เกลียดตัว ก็ให้ไป กินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง
!!! ไม่หน่ายแหนง
เกลียดสังขยาให้กินขนมหม้อแกง จะ ...
กินน้ำไม่เผื่อแล้ง !!! แกล้งทำเมิน เขินแทบตาย
คุณผู้หญิง อย่าทำตัวเป็น กาในฝูงหงส์ !!! ทำประมงงก ๆ
เที่ยวหา ... หอย
และอย่าทำตัวเป็น ไก่ได้พลอย !!! ... นั่งงมหอยอยู่คนเดียวเปลี่ยวอุรา !!!
เพราะ กว่าถั่วจะสุก งามันก็จะไหม้ !!! โคนตะไคร้ปักดินไม่เห็นสม
คนแปลก แปลก ตอนสาย สาย นอนตากลม สัปดน
... นอนตากแดดแปลกแทบตาย
โบราณว่า
กำขี้ดีกว่ากำตด
!!! สุดสลดกำมันทำไขสือ กำเอาไว้ได้ยังไงอยู่ในมือ
โอย ... อื้อ หือ เหม็นขี้ ... อ้วกแทบตาย
!!!
กลืนไม่เข้า คายไม่ออก !!! บอกไม่ถูก ใครคนผูกรีบมาแก้หน่อย ...ได้ไหม ?
ตรูมานั่งแก้เชือกอยู่ตรงนี้ ... เหนื่อยแทบตาย
ไอ้ฉิบหาย คนไหนผูกเชือก ... ช่วยบอกที
ตอนเช้า เช้า กินข้าวร้อนนอนตื่นสาย !!! ตอนสาย สาย กินข้าวเย็นเครื่องเซ่นผี
พอตอนดึก นึกคึกมาในทันที ... สั่ง บะหมี่หมูแดง
ให้หลวงตา
ใครเขาว่า กลิ้งครกขึ้นภูเขา !!! ...
ดูไม่เข้าท่า เข้าที ไม่เหมาะสม กลิ้งครกเปล่าขึ้นเขาออกจะงง
เพราะประเดี๋ยวก็คง กลิ้งเอา สาก ...
ฝากขึ้นไป
อย่ามา กวนน้ำให้มันขุ่น !!! จะได้ซุ่มดู มวยมันส์ ... ตามร่องฝา
เผลอแผล็บเดียว ไม่เห็นถนัดชัดสายตา ... โดน บาทาลูบพักตร์
หลับทั้งยืน
มันเป็น กงกำกงเกวียน !!! เวียนบรรจบ ให้มาพบกับ บาทา ตรงข้างฝา
ลุกมาได้ ตั้งท่าทำท้าทาย ... ไอ้ฉิบหาย
เพื่อนวิ่งไว กว่าตีนกู
อย่าทำตัวเป็น กบในกะลา !!! ที่โดนครอบ
จับทอดกรอบกินกันสองต่อสอง
เหล้าสักใหเพื่อไมตรีขอปรองดอง ช่วยสตรองกันไปก่อนนะเพื่อนเรา
หรือจะทำตัวเป็น กิ้งก่าได้ทอง !!! ...
ไม่เจ็บท้อง ร้องหา ตาหมอใส
เห็นเพื่อนวิ่งไปข้างหน้าอย่างว่องไว เฮ้ย ...
ไปใส ? บอกกันบ้างซิวะ ... มึง
เพื่อนตอบกลับ พบไม้งามยามขวานบิ่น !!! คมทื่อสิ้น บิ่นไปไหนต่อไหน ?
ไปท่องเที่ยว เกาะล้าน นั่นปะไร ... คนหัวใส
ผมไม่มี ... หัวเกลี้ยงเกลา
เหมือนกับคน ลูบหน้าปะจมูก !!! บอกไม่ถูก
หู ตา อยู่ตรงไหน ?
ดู กลม กลม เกลี้ยง เกลี้ยง เลี่ยนทั้งใบ
อยู่ที่ไหน ? อยู่กับใคร ? ช่วยบอกที
เหมือน เส้นผม เส้นเดียว บังภูเขา !!! บังแต่เขา
ไม่บังเรา ... โอ้ละหนอ
ผมเส้นเดียวบังภูเขายังไม่พอ ... สปก. มันยังบัง
มิดกลบ หมดพอดี
นี่แหละหนา คนดี ที่ ผีคลุ้ม !!! นั่งกลุ้ม ๆ อยู่ในใจ ... กระไรหนา
อัสนี และ วสันต์ แต่เดิมมา ร้องเรียกหา ล.ลิง เพราะ กุ้มใจ
เขาบอกว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก !!! เอ๊ะ
! จะตักกันยังไง ไฉนหนา
ก็น้ำมันขึ้นพรวด ๆ เห็นคาตา ... วิ่งซิหนา
หนีไม่ทัน ท่วมมิดคอ
พอ น้ำลดตอผุด !!! กันเห็น
เห็น กลิ่นก็เหม็น ขยะกองปิดปากท่อ
ตอนน้ำขึ้น ขยะ มันลอยคอ ซวยซิหนอ น้ำลด
... ตกตะกอน
ขอปิดท้าย ทุภาษิตคำกลอน !!! ... ใช่ว่าสอน
ไม่เห็นพร้องข้องใจ ... กระไรหนา
สงกะสัยสิ่งใด ใด คุณขอมา !!! ไม่เฉื่อยชา หา คำตอบ มาบอกกัน !!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น