วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

คนไม่มี ค. ว. และ ย.



คนไม่มี  ค. ว. และ ย. 


หยุดคิดเสียก่อน ... ก่อนตัดสินใจ
ผมดูท่าว่า ... มัน จะไปกันใหญ่แล้วนะครับ ... !!!
กับ สารพัดเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน “ บ้านเรา เมืองเรา ฟ้าเรา ” ก่อนการเลือกตั้ง ปี ๖๒ ที่กำลัง
จะเกิดขึ้นหลายคนได้เห็นถึง วุฒิภาวะ ของคนหลาย ๆ คน หรือ คนบางกลุ่ม ที่อวดอ้างว่า 
“ ตัวเอง ” เป็น ผู้มีความรู้ ความสามารถ และ เสนอตัวอาสามา “ รับใช้ประชาชน ”
สร้างวาทะกรรมอันสวยหรูว่า “ ตัวข้านี่แหละทำได้ ” ข้า ฯ คือ พรรคเดียวที่เป็น เทวดา
บินมาจากสวรรค์ เหนือกว่าอื่นใด ? ทั้งสิ้น หวังดีที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดี มีความสุข ไม่ทุกข์
ยาก ประเทศชาติรุ่งเรือง “ ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ” ด้วย ปัจจัยต่าง ๆ ที่จัดมาเป็น แพกเก็ต 
ใส่กล่องของขวัญ ผูกโบว์สวยหรู

แต่แล้วยังไม่ทันจะ “ เลือกตั้ง ”
ก็มี บางคน บางกลุ่ม บางพวก ที่อวดโอ้ว่าเป็น “ คนดี ” ต้อง “ ตกม้าตาย ” แค่หน้าประตูเมือง
เท่านั้นผมว่าตอนนี้ ... เอา “ ตัวเอง ” ให้ “ รอด ” ก่อนเถอะครับ !!!
จำไม่ได้แล้วว่า เคยร่ายยาวเรื่อง สติ และ สมาธิ ไปเมื่อไหร่ ?
เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ? ก็ตาม หากคุณไม่มี สติ คุณก็จะไม่มี สมาธิ ที่จะทำอะไร ? บางอย่างนั้น 
ให้ประสพความสำเร็จได้ตามใจปรารถนา

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

บทเรียนที่เกิดขึ้นกับ ใคร ? บางคน บางกลุ่ม นั้น !!!
ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะทำลงไปด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ความจริง ที่ไม่อาจจะปฏิเสธก็คือ ... 
พวกคุณไม่มีการเรียนรู้ หรือ มีความรู้อย่างแจ่มแจ้งในเรื่องราวที่คุณคิดจะทำ หรือ คุณเรียนรู้
อย่างแจ่มชัดแต่แกล้ง ตีความ ในเรื่องราวนั้น เข้าข้างตัวเอง และคิดไปเองว่า ... ข้าทำได้ !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ความนัยในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา นับจากที่ “ คณะราษฎร ” เปลี่ยนแปลงการ
ปกครอง และประกาศใช้ “ รัฐธรรมนูญฉบับแรกของสยาม ” เมื่อเวลา ๕.๐๐ น. วันที่ ๒๗ 
มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๕ โดยข้อความในรัฐธรรมนูญเริ่มต้นมาตรา ๑ ความว่า
" อำนาจสูงสุดของประเทศนั้น เป็นของราษฎรทั้งหลาย "

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ยังได้จำกัดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยยกเลิกพระราช
อำนาจที่มีมาแต่โบราณ แต่ยังมิได้ยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์
ปลายปี พุทธศักราช ๒๔๗๕ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม มีผลใช้บังคับ ใน วันที่ ๑๐ 
ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ คืนพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ 
หลายประการจากเดิมที่เคยถูกจำกัดภายใต้พระราชบัญญัติธรรมนูญฉบับก่อน
และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ 
พระมหากษัตริย์ “ ศักดิ์สิทธิ์และจะล่วงละเมิดมิได้ ”

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะรู้ถึงความนัยข้อนี้เป็นอย่างดี
จะมีก็แต่เพียง พวกรู้มาก หรือ พวกที่ไม่รู้อะไรเลย ? เท่านั้น !!!
อย่าไป ตอกย้ำ หรือ ก่นด่า คนเหล่านี้เลยครับ เพราะไม่มีประโยชน์ ซึ่งเท่าที่ คนพวกนี้แสดงโง่
ออกมาได้ขนาดนี้ได้แสดงว่า “ คนพวกนี้ ... ไม่มีสำนึก ”

ไม่มี ... ค.
ไม่มี ... ว.
ไม่มี ... ย.

คือ ไร้ซึ่ง ค. = ความคิด / ไม่มี ว. = วิเคราะห์ ไม่เป็น และ ไม่รู้จัก ย. = แยกแยะ ไม่ถูก
จำไว้เถอะครับว่า ... คนแบบนี้หรือ ? คือ คนที่คุณจะเลือกพวกเขาเข้า ... สภา ฯ
ก็แล้วแต่คุณละกัน !!!

ปิดท้ายด้วย
กาแฟดำ ขมปร่า ควันกรุ่น และ ปาท่องโก๋ สังขยาใบเตย ... !!!

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

โศกนาฎกรรม เฮียกุ่ย


โศกนาฎกรรม เฮียกุ่ย


ดูกรกุมารา ...  อันโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้ มันช่างสับสน วกวน กันเสียจริงหนอ
กริดังได้ยินมาว่า ถ้าเอ่ยถึง เฮียกุ่ย เจ้าของแผงปลา แห่ง ตลาด 1000  ปี ( น้ำคลำดำปิ๊ดปี๋ ) 
วัดสิ้นศรัทธรธรรม แล้ว น้อยคนที่ในหมู่บ้านญาติระอาหรือหมู่บ้านใกล้เคียงจะไม่มีใครไม่รู้จัก 
เพราะ เฮียกุ่ย คนนี้ ได้ชื่อว่าเป็น กระบี่มือหนึ่ง ผู้มีความชำนิชำนานเชี่ยวชาญในเรื่อง 
การทำปลา อย่างหาตัวจับยาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ... “ การแล่เนื้อปลา ”

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

อาเฮียคุยโอ่ว่า ไม่มีใครในโลกเก่งเท่าแกอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การแล่ปลาในแบบ ฟินเลท์ 
( แล่เป็นบั้ง ) บัตเตอร์ฟลาย ( ปลาสยายปีกเป็นผีเสื้อ )  หรือ หั่นปลาเป็นชิ้น เป็น แว่น 
( ทำสเต๊ก ) ซูพรีม  ( ชิ้น ๆ พอดีคำ )  หรือ ตัดขวางติดกระดูก ( เอาไว้ใส่ในแกงเผ็ด ) 
เฮียกุ่ย แห่งตลาด 1000  ปี ( น้ำคลำดำปิ๊ดปี๋ )  ...  “ จัดให้หมด ” ถ้า “ สดชื่น ”  
( คนละเรื่อง )

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

แต่แล้ว “ วันมหาวินาศ ” ของ เฮียกุ่ย ก็มาถึง !!!
เช้าวันนี้ที่ ร้านข้าวแฝ่ เฮียอ่าง หลังจากที่ เฮียกุ่ย นั่งละเลียด โกปี๊ดำ ของโปรดจนได้ที่ ... 
กูรูมือเพชฌฆาต เริ่มโม้ถึงความเก่งกาจของแกให้กับคนในชายคา สภาข้าวแฝ่ ฟัง ... 
เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
แกพ่นน้ำลายออกมาได้ครู่หนึ่ง ... ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นมาจากฝั่งคนฟัง 
“ เฮียกุ่ย ....  ขี้โม้ ชิเป๋ง
เฮียกุ่ยหยุดชะงักหันขวับมองไปตามเสียง
“ อ้อ ... ไอ้แกว่น นี่เอง ”
แกถลึงตามองเด็กหนุ่มมาดกวนในกลุ่ม
“ เอ็งเสือก มากวน  (... ) ข้า ทำไม ? วะ

ไอ้แกว่น จิ๊กโก๋ขาโจ๋หลานชายหลวงตาก่ำ ผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์อันแรงกล้าของ คาร์ล มาร์ก 
( ที่แม้แต่ตัวมันเองยังไม่รู้ว่า ไอ้คาร์ล มาร์ก นี่คืออะไร ? .... งงมะ) 
คู่กรณียักไหล่แสยะยิ้ม ... ส่งเสียงดังคับสภาข้าวแฝ่
“ ถ้า เฮีย ... แน่จริงเหมือนปากพูด ก็ลองโชว์ฝีมือ กระบี่มือหนึ่ง ให้ดูหน่อยซี  
ไอ้แกว่น ... ท้าทาย แล้วหันไปแสยะยิ้มกับพองเพื่อน
“ กูว่า ... งานนี้มีจ๋อย ”  ลากเสียงยาวตอนท้าย ตามด้วยเสียงเฮดังลั่น
ถูกเด็กรุ่นลูกหยามเอาตรงหน้า เฮียกุ่ย ... ถึงกับ “ หัวร้อน ” เลือดเดือดขึ้นหน้า
“ ไอ้แกว่น ไอ้เด็กเส็งเคร็ง มึงมาท้ากูแบบนี้ มันหยามกันนี่หว่า ... ”
เฮียกุ่ย เดือดดาล ขนาดโดนเมีย ( ยัยแห ปากลำโพง ) ด่าพ่อล่อแม่ตั้งแต่เช้าจรดเย็น 
แถมรอบดึก อีกตาหากยังไม่โกธรเท่านี้ ... !!!

มือเพชฌฆาตปลา กระชากมีดเรียวบางปลายแหลมออกมา กระชับในมืออย่างรวดเร็ว
“ อย่างนี้ มันต้องสำแดงให้เห็น สีมือ กันจะจะ ” 
แกว่งมีดคมกริบในมือไปมา
เห็นอย่างนั้น สมาชิกสภาข้าวแฝ่ วงแตก !!!  ( มีด ไม่ใช่ ไม้จิ้มแข่ว ( ฟัน ) โดนเข้าไป รูเดียว  
มรณัง ทุกขังอนัตตา แน่ ) โดยเฉพาะ ... ไอ้แกว่นถึงกับถอยกรูด
“ ไอ้แกว่น ไอ้ปากดีมึงไม่ต้องหนี มึงเอามา เอาปลามาให้กู ปลาอะไร ? ก็ได้ กูจะแสดงให้เห็นถึง 
สีมือ ระดับโลก ไอ้เด็กเมื่อวานซืน เอามา เอาปลามา    

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

เฮียกุ่ย ขยับมีดในมือ ปากร้องท้าทาย เสียงดังลั่น
ตอนนี้สมาชิกสภาข้าวแฝ่ เริ่มกลับมารวมตัวกันใหม่
“ แน่ใจนะ เฮียกุ่ย ...    ไอ้หนุ่มมากอุดมคติ ถามเพื่อความแน่ใจ
“ เออ ... เออ ซิวะ ...  
ขยับมีดไปมา ตอบหนักแน่น

ได้รับคำยืนยันอย่างนั้น ไอ้แกว่นจึงขว้างถุงกระดาษที่เตรียมมาในมือไปให้เฮียกุ่ย ....
เฮียกุ่ยรับถุงกระดาษอย่างแม่นมั่น ล้วงมือลงไปในถุงกระดาษ หยิบอะไร ? บางอย่างขึ้นมาดู
“ เฮ้ย ... ไอ้ชิบ...  ปะ ปลาแบบนี้ .... กูแล่ไม่ได้โว๊ย   เฮียกุ่ยตะโกนเสียงดัง


ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ทุกสายตาในสภาข้าวแฝ่ต่างจ้องมองไปที่มือเฮียกุ่ย ที่ตอนนี้แกหยิบของสิ่งนั้นออกมาพ้น
ปากถุงแล้ว ... เท่านั้นเอง เสียงหัวร่อก็ดังไปทั่วสภาเพราะ ปลา ในมือเฮียกุ่ย …!!!
มันคือ ....  “ ปาท่องโก๋ ”


วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

หยุด ! คิด ก่อน ... เขียน !!!



หยุด ! คิด ก่อน ... เขียน !!!  


ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ชีวิตคน ... เหมือนคำพระท่านที่ว่า
“ อนิจจา วต สังขารา ”
ใช่ครับ ... สังขารไม่เที่ยง
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่ทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้ ต้องเผชิญกับมัน 
ไม่มีใครได้รับการยกเว้น หรือ หลบเลี่ยงไปได้
ไม่มีเคยใครที่ไม่เคย “ เกิด ... แก่ ... เจ็บ และ ตาย ” ในวันหนึ่งข้างหน้า ไม่มีใครหนีพ้น 
แม้จะ ... รวยล้นฟ้า หรือ จนติดดิน วันหนึ่งทุกผู้นามก็จะได้พบกับวาระสุดท้ายแห่งชีวิต 
เฉกเช่นเดียวกัน
และเมื่อถึงวันนั้น ... !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ไม่มีใครสักคนที่จะเอาอะไร ? ติดตัวไปได้เมื่อตายจากโลกนี้
ทั้ง ทรัพย์สิน เงินทอง บ้าน รถยนต์ และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ หรือ แม้กระทั่ง ผ้าขาว
ม้าผืนเดียวที่จะพันกาย
ทั้งหมด ทุกอย่างที่ทำมาทั้งชีวิต ... !!!
สูญสลาย ลงไปภายในพริบตา
ทั้งที่ตลอดมาชั่วชีวิตที่ผ่านต่าง ไขว่คว้า และ แสวงหา เหนื่อยล้าจนสายตัวแทบขาด 
แต่กลายเป็นว่า มันก็อยู่กับเราแค่ ... “ ชั่วคราว ” ... เท่านั้น
แม้แต่  “ เศษซากสังขาร ” ยังมอดไหม้กลายเป็นเศษเถ้าธุรีในกองฟอน รอวัน “ สูญสลาย ” 
ไปกับพระแม่ธรณีในท้ายที่สุด !!!
หลายวันก่อน ผมไป “ ส่งเพื่อน ” !!!
“ เพื่อน ” ... ที่เหมือนกับว่าได้ ตายจากผม ไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ... !!! 
“ เพื่อน ” ...  ที่วันนั้น ผมหันหลังเดินหนีจากมัน !!!
“ เพื่อน ” ...  คนที่ผมไม่ต้องการ !!!  
ไร้สาระ ... ที่จะ ย้อนอดีต ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่าง “ เพื่อน ” !!!
ไม่มีใครผิด ... ถ้าถามว่าใครผิด
ไม่มีใครถูก ... ถ้าจะถามว่าใครถูก
แต่ที่บอกได้คือ ... เราสองคน “ สูญเสีย ” !!!
เสียความรู้สึก และ เสียดายเวลา แต่ ... ไม่เสียใจ !!!
เราสองคน ... มีความคิดเป็นของตัวเอง มีความคิด มีอุดมคติ มีอุดมการณ์ มีเส้นทางเดิน 
และมี ... “ ตัวตน ” ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงได้... แม้ว่าจะเป็น “ เพื่อน ” กันก็ตาม !!!
หลายปีที่ผ่านมา ... เราเจอหน้ากันบ้างบางครั้ง บางเวลา บางโอกาส ต่างเวลา ต่างสถานที่ 
ต่างกรรม ต่างวาระ ทั้งใน การทำงาน หรือ งานสังคม ... !!!
เราสองคนไม่เคยหลบหน้าหรือหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ...  เราหันหน้าเข้าหากัน !!!
มี รอยยิ้มเปื้อนใบหน้า มีสายตาที่เป็นมิตร ต่างฝ่ายต่างโบกมือให้กันด้วย “ มิตรภาพที่ดี ”
ไม่เคยมีสักครั้งที่จะ “ เพื่อน ” จะทักทายกันด้วย “ วาจา ” 
ดังเช่นที่ เพื่อนทั่ว ๆ ไปเขาทำกัน !!!
เพื่อนหลาย ๆ คน ... เคยถาม เพื่อนสนิท ... เคยสงสัย !!!
ส่วนไอ้ที่สนิทกันมาก ๆ มันเคยก่นด่าเราสองว่า 
“ มึงสองคน เป็น .... ( วรนุช ) อะไร ? กัน ... ไม่พูดกันมาเป็นสิบปี
และ อาสาจะเป็น “ กาวใจ ” ให้
“ ............. ” 
ไม่มีคำตอบ !!!
หลายปีต่อมาเพื่อนพากันเอียนและเลิกสนใจ
จะมีก็วันนี้ที่ ผม “ ทะลายกำแพง ”  ลดอัตราที่เป็นตัวตน
พูดกับเพื่อน ดังเช่น ... “ ปิยมิตร ” ที่มี “ มิตรไมตรี ” ที่ดีต่อกัน

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

แม้จะเป็นเพียงข้อความสั้น ๆ ว่า .... “ ลาก่อน !!!
แต่ผมก็เต็มใจที่จะพูดมันออกมาจากส่วนลึกในจิตใจผม
ผมเคาะโลงบอกมัน ... ก่อนที่เราจะจากกัน !!!                            

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2562

ป.ปลา ที่มี ล.ลิง




ป.ปลา ที่มี ล.ลิง


วันนี้ ...  วันเสาร์ !!!
ผมตื่นนอนสาย
การ์ดงานศพ ๒ ใบ วางตรงหน้า ... ไม่ทำให้ผมแปลกใจเท่าไหร่นัก !!!
การ์ดใบหนึ่ง เป็น การ์ดเพื่อนสมัยเรียน ที่ผมและหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนในครอบครัวของ
คนที่เสียชีวิตต่างเตรียมใจกันเอาไว้แล้วว่า ...
วันนี้ !!! ต้องมาถึง ( หลังจากที่คุณหมอยื้อชีวิตเพื่อนคนนี้จาก มะเร็ง มาได้นานเกือบปี )
สำหรับ การ์ดอีกใบนั้น ผมเสียดายมากกว่าเสียใจครับ !!!
ผมเสียดายโอกาสและอนาคต ... ผู้เสียชีวิต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ความหวังของพ่อและแม่เด็กหนุ่มที่พวกเขาสูญเสียไปอย่างไม่มีโอกาส
ได้แก้ไข เพราะ ... ยาเสพติด !!!

Special Thank : GOOGLE

วางการ์ดลงบนโต๊ะ นึกถึงคำพระที่ว่า ...  “ อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา ”
ความไม่เที่ยง แปรปรวนไป สลายไปในที่สุด จะหาอะไรมาเป็นเรา ของเราไม่ได้เลย
ดังนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงสอนว่า “ ไม่ให้ไปยึดมันถือมั่นมัน เพราะมันมีสภาพ
ที่เป็นทุกข์ ”
เช่นเคยครับ กับ กาแฟขมปร่าควันกรุ่น แต่ไม่มีอะไร ? เพิ่มเติม
นึกขึ้นมาได้ว่า ความจริงในสมัยก่อนตอนที่ยังเป็น อารามบอย มีนิวาสถานอยู่ในวัด 

Special Thank : GOOGLE

ผมชอบ ทานปา นะ ... !!!
โดยเฉพาะ ตอนที่ มัน ถูกช้อนขึ้นมาจากกระทะสะเด็ดน้ำมันใหม่ ๆ
หอมกรอบ จะเคี้ยวกรุบกรอบ หรือ ฉีกเป็นสองท่อนจิ้มนมข้นหวาน ใส่ปากกร๊วบ ... 
ตามด้วย กาแฟดำขมปี๋โฮกใหญ่  แค่นี้ก็ แจ่มแจ๋ว ไปเลย !!!  
อย่าเข้าใจผิดครับ “ ปา ” ที่ว่าคือ ... “ ปาท่องโก๋ ”  ( ป.ปลา ไม่มี ล.ลิง ควบกล้ำ )

Special Thank : GOOGLE

ส่วน ปลา ( มี ล.ลิง ควบกล้ำ ) กับ ผม ... !!! 
ผมจะทานปลา ทั้ง ... ปลาปิ้ง ปลาย่าง ปลาอบ ปลาเผา ปลาต้ม ปลานึ่ง ปลาทอด ปลาหลน 
ปลาร้า ปลาแดก ปลาเจ่า ปลาหมก ปลาหมัก หรือ แม้กระทั่ง ... ปลาดิบ
แต่ที่น่าเสียดาย ในชีวิตผมไม่เคยมีแฟนชื่อ ...  “ ปลา ” !!! 

Special Thank : GOOGLE

ว่ากันว่า “ ปลา ” เป็นสัตว์น้ำที่มีปฏิสัมพันธ์กับ มนุษย์ อย่างแน่นแฟ้น มาตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีหลักฐานทางโบราณคดีมากมายที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ 
มีการจับปลา หรือ ล่าปลา เอาไปเป็นอาหาร แต่ก็มีบ้าง บางทีที่ ปลาล่ามนุษย์ เป็นอาหาร
เหมือนกัน !!! ( ทีใครทีมันครับ ทุภาษิตยังเคยว่า ...  “ น้ำมาปลากินคน น้ำลดคนก็กินปลา ” )

Special Thank : GOOGLE

ชาวจีน ถือว่า ปลา เป็น สัตว์มงคล
เพราะ ปลา คือ ช่วยเสริมดวงชะตาตามความเชื่อชาวจีน เป็น “ สัญญลักษณ์ความมั่งคั่ง
ร่ำรวย ” โดยเฉพาะคนที่ทำการค้ามักนิยมเลี้ยงปลาในสถานที่ประกอบธุรกิจ
ปลา ที่นิยมเลี้ยงกันมาก คือ ปลาเงิน, ปลาทอง, ปลาคราฟ, ปลามังกร หรือ ปลาอะโรวาน่า

Special Thank : GOOGLE

ปลาเงิน และ ปลาทอง ... สัญลักษณ์ของการมีเงินทองล้นหลาม
ปลาคราฟ ... สัญลักษณ์ของผลกำไรหรือผลประโยชน์จากการทำธุรกิจ
ปลามังกร หรือ ปลาอะโรวาน่า ...  สัญลักษณ์ของโชคลาภ ความมั่งคั่งและแข็งแกร่ง

ขึ้นต้นด้วย การ์ดงานศพ ไฉนดันมาจบลงที่เรื่อง “ ป.ปลา ตากลม ” ได้ ...
ปิดท้ายด้วย กาแฟดำขมปี๋ ... อึกสุดท้าย !!!


วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562

อวสาน ครกกะบาก สากกะเบือ



อวสาน ครกกะบาก สากกะเบือ


เช้านี้ ... ตื่นขึ้นมา
อากาศเย็น !!!
กาแฟขมปร่าควันกรุ่น ... แก้วแรกตรงหน้า
อาจจะพอช่วยให้อากาศเย็นรอบตัว อบอุ่นขึ้นมาบ้าง ... ไม่มากก็น้อย !!!  
( คิดอย่างนั้นนะ ... ผมว่า )

ขอบคุณ : YOUTUBE

อาทิตย์ที่ผ่านมา
หลากหลายเรื่องราว ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิต รบกวน สติ และทำให้ ... สมาธิ ไม่มั่นคง !!!
ยอมรับว่า อ่อนล้า เหนื่อย เบื่อ และ หน่าย กับ แต่ละบทบาทของ ละครชีวิต 
ที่โถมถั่งเข้ามาปะทะจนตั้งตัวแทบไม่ติด !!!
ริน ... เตอกีร่า ( ใสราวตาตั๊กแตน) ช็อทเล็ก ๆ ลงไปในแก้วกาแฟ ...  !!!
ยกขึ้นดื่ม !!!

ขอบคุณ : YOUTUBE

นึกขึ้นได้ถึงคำสอนของ ผู้ใหญ่สมัยโบราณที่ว่า ... “ จะหาสาวทำเมีย ก็ให้ฟังเสียง
โขลกน้ำพริก ”
สาวใดตำน้ำพริก ... ลงสากหนัก เสียง รัว เร็ว จนสากแทบจะหัก
ลูกเอ๋ย เจ้าจงรู้ไว้เถิดว่า  “ สาวนั้น ...  ขี้ใจร้อน และ เอาแต่ใจตัว เป็นหลัก !!! ”
สาวใดตำน้ำพริก ... ลงสาก เสียงรัว เร็ว  หยุด เป็นพักสลับ รัว เร็ว ต่อ
จงนึกเสียเถิดว่า ... “ สาวนั้น ... ใจโลเลเอาแน่ เอานอนไม่ได้ พูดจากลับกลอก
ปมาไม่น่าฟัง !!! ”
สาวใดตำน้ำพริก ...  ลงสากเสียงเบากริบ อืดอาด เนิบนาบ เชื่องช้า ไม่ทันกิน
จงให้รู้สิ้นไปเถิดลูกว่า ... “ สาวนั้น ... ขี้คร้าน ไม่สู้งาน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ !!! ”
สาวใดตำน้ำพริก  ... ลงสากกระทบครก เสียงดังหนักแน่น สม่ำเสมอ
นั่นแหละ ... “ สาวนี้ ... จริงจัง หนักแน่น ไม่โลเล รักจริงแท้ ตัวตายไม่เปลี่ยน
ใจเป็นอื่น !!! ”

ขอบคุณ : YOUTUBE

ต้นปี ๖๒ ที่ผ่านมา
ไอ้หำ หนุ่มบ้านไร่ ( ชื่อใหม่ นายอรรณพ ) กลับไปบ้านนอกคอกนา ( ไกลปืนเที่ยง ) 
พร้อมกับ สาวไอวี่
( ชื่อเดิม อีเหวิ่ง ) แฟนสาวคนสวย ( ในสายตามัน ) ไปหาแม่เฒ่า
เมื่อมีโอกาส ยายแห แอบกระซิบถามลูกชายคนโปรด ... !!!
“ ไอ้หำ สาวที่เอ็งพามานั้น มันตำน้ำพริกเสียงดังยังไง ? กันล่ะหวา ”
ไอ้หำหนุ่ม อรรณพ ชำเลืองมองแม่เฒ่ารีบตอบเสียงดังขึ้นมา
“ อ๋อ ... เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงแม่ ... คนนี้ แน่นอน เสียงตำดังถี่ เป็นจังหวะ หนักแน่น 
สม่ำเสมอ ลื่นปรี๊ด ลื่นปรี๊ด เละป่นเป็นน้ำ รวดเร็ว ฉับไว ทันใจ และ ไว้ใจได้ ” 
จบด้วยเสียงหัวเราะร่าเริง
มันตำยังไงกันวะ ... ลื่นปรี๊ด ลื่นปรี๊ด เละเป็นน้ำ ยายแหข้องใจเป็นยิ่งนัก
“ ปะเดี๋ยวไอ้หำ ... เอ็งวานบอกทีว่า อีหนูมันตำยังไงของมันวะ เละเป็นน้ำ ” 
ไอ้หำ ไม่บอกแต่หันไปค้นหาอะไร ? บางอย่าง เสียงดังกุกกัก กุกกัก ก่อนที่จะชู
ของอย่างหนึ่งในมือให้ดู
“ ก้อนี่ไงแม่ ...  มูริเน็กซ์ !!! ”

ขอบคุณ : YOUTUBE

คำสอนโบราณ ( บานบุรี ) คงนำมาใช้กับ สาว ๆ สมัยนี้ไม่ได้แน่ เพราะ สากกะเบือ 
กะ ครก มันหมดมนต์ขลังลงเสียสิ้นแล้ว .... เมื่อมาเจอเข้ากับพลังใหม่แห่ง ... 
“ เครื่องปั่นสารพัดประโยชน์ ”
กาแฟขมปร่า เพิ่มเติมด้วย ๑ ชอท เตอกีร่า อึกสุดท้าย ... 
หายวาบลงคอ !!!


คนไม่มี ค. ว. และ ย.

คนไม่มี  ค. ว. และ ย.   หยุดคิดเสียก่อน ... ก่อนตัดสินใจ ผมดูท่าว่า ... มัน จะไปกันใหญ่แล้วนะครับ ... !!! กับ สารพัดเรื่องราวที่เ...