ธรรมะติดจรวด กับ หลวงตาเฉื่อย ตอน ๒
กริดัง ได้ยินว่า ณ วัดสิ้นศรัทธาธรรม ใน หมู่บ้านญาติระอา แห่งนี้ มี พระภิกษุเฒ่าชรา ชื่อ
หลวงตาเฉื่อย ( สมณะศักดิ์ว่ากระไร ? ไม่ปรากฏ ) เป็น เจ้าอาวาส มี พระลูกวัดอยู่ ๑ รูป
คือ สามเณรอึ่ง เจ้าปัญหา กับ ตาแจ่ม สัปเหร่อหนังเหนียว และ เด็กวัดจอมกวนอย่าง เจ้าแก้ว
สี่แรงแข็งขัน ต่างร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาวัดสิ้น ฯ ที่เสื่อมโทรม หวังจะให้กลับมารุ่งเรืองเหมือน
กับอดีตที่ผ่านมา ( ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ไม่รู้ เพราะ ตาแจ่ม แกบอกว่าตั้งแต่เกิดมาจนมารับอาชีพ
อันทรงเกียรติจากตาจวง พ่อของแก ... " วัดสิ้นฯ มันก็เก่าอยู่แบบนี้ แล้วแหละ" )
แต่ก่อนที่จะไปทัวร์ วัดสิ้นฯ เรามาทำความรู้จักกับ หลวงตาเฉื่อย กันดีกว่า ... !!!
หลวงตาเฉื่อย
คนขยัน ... เจ้าอา ( ละ)วาด วัดสิ้นศรัทธาธรรม
“
นั่งตากลม ชมจันทร์ ” ในยามดึก
อากาศกลางคืน มันดูพิลึก
พาให้นึกตรึกตรองอยู่ในใจว่า
... “ รู้ไว้ใช่ว่า ” ...
เก็บใส่บ่า
เขาหาใช่
ให้นำมา ... “ แบกหาม ” ไม่ ?
ก็ได้แต่ว่าความตามกันไป
... “ ความรู้ ” นั้น หาใช่ “
สิ่งแบกคอน ”
เปรียบประดุจ
การเดินทาง กลางวิถี พบเรื่องราว ต่าง ๆประดามี
สุดจะดีเหลือล้น
... พ้นประมาณ
เที่ยวเสาะหา
เรียนรู้ และจำจด รู้ผิดถูก รู้กำหนด ... รู้แก้ไข
และทำตัว
“ ครูพักลักจำ ” ไว้ในใจ
จะได้ช่วย
พึ่งพา ยามอับจนหนทาง ... หมดปัญญา
หลวงตาเฉื่อย
ผู้เฒ่า ... ทอดถอน หายใจหนัก
!!!
ไม่หยุดพัก
“ มากเรื่องราว ” ต้องแก้ไข
ทั้ง
งานวัด และ งานราษฎร์ ทุกอย่างไป ...
จะหาใคร
? มาร่วมด้วย ... มาช่วยกัน !!!
ดั่งโบราณท่านว่า
“ มีวิชาเหมือนมีทรัพย์ ” ... อยู่นับแสน
จะตกไปอยู่ในถิ่นไหน
? ไม่ ... ขาดแคลน
แต่ถ้าแร้นแค้น
ลำบากมากไป ... ต้องอำลา !!!
“
ญาติระอา ” ... หมู่บ้านเรา มากปัญหา
จึงนำมา
ซึ่งชีวิต “ เศร้าหมอง ” ... น่าอดสู
ซึ่งหาก
ใคร ? มี ความรู้ มีปัญญา เป็น ... เหมือนครู
จะช่วยกู้ ช่วยชีวิต หาก ... คิดเป็น !!!
แต่ที่เห็น
... “ ชีวิตจริงเล่นบทเศร้า ”
มีแต่เหงา
เพราะบ้านเราไม่มีใคร ? ... แยแส
ไม่มีใคร
? สักคนมา ... เหลียวแล
ความจริงแท้
“ ยากจน ” เกินกว่าใคร ?
ยิ่งตกดึก
น้ำค้างที่พร่างพรม ยิ่ง ... ตกหนัก !!!
อากาศชักจะ
หนาวเย็น เข้าไปใหญ่
จะเหลียวมอง
ซ้ายขวา ... ไปหาใคร ?
ยิ่ง
เศร้าใจ ... ไม่มีใคร ? อยู่ซักคน
หลวงตาเฉื่อย
เอื้อนเอ่ย ... ฝ่าลมหนาว !!!
ถึงหนุ่มสาว
ที่จากไปไกล ... เหลือแสน
ไปถึง
แดนศิวิลัย ... ไกลหนักหนา
เรียนจบแล้ว
... จงรีบกลับคืนมา
พัฒนา
“ ญาติระอา ” หมู่บ้านที่ ... เกิดกาย !!!
เช่นดั่งคำ
... “ นกน้อยกลับตายรัง ” เชื่อไม่ได้
ลูกในไส้
ทิ้ง พ่อ/แม่ ให้อดตาย ... น่าอดสู
มันไม่เชื่อใน
คำพระ ทิ้ง ... คำครู
เสียความรู้ที่เรียนมา
ตั้ง ... หลายปี !!!
หลวงตาเฉื่อย
เหนื่อยใจ ... แทนพวกชาวบ้าน
แต่ขี้คร้านกล่าวออกไป
... ให้แสลง
มือกอดอก
เคี้ยวหมาก จนปากแดง !!!
เหมือน
ฟ้าแกล้ง ดินสาป ... ให้ยากจน
เกิดเป็นคน
... มือกร้าน หยาบกระด้าง
ทำแต่งานหนัก
กลางนา ... แตกระแหง
หวังเปลี่ยนแปลง
“ ชีวิตอับจน ” ... ให้สดใส
แต่ชีวิตไม่สมหวัง
... ทุกอย่างไป
ผลสุดท้าย
ก็ “ จนกรอบ ” ... ยิ่งกว่าเดิม !!!
ละอองฝน
ตกหนัก สาด ... กระหน่ำ
ตกซากซ้ำ
ซ้ำซาก ตรงที่เดิม ... ตกอีกหน
หลวงตาเฉื่อย
เหม่อมองฟ้า ที่ ... มืดมน !!!
โลกสับสน นี่หรือคน ... “
ญาติระอา ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น