คำทำนาย ... ทายฝัน
“
ความฝัน ” คือ จินตนาการ
...ในยามหลับ ใช่ ! “ ความลับ ” ปิดเงียบ ..ไม่เปิดเผย
ฝันไปเถิด
... ฝันไป อย่างเกินเลย อย่า ... ! นิ่งเฉย ใน นิทรา ใช่ ! ... เรื่องจริง
ตาม
“ ตำราทายฝัน ” ... เขาบอกกล่าว เป็น เรื่องเล่า หรือ เรื่องจริง ! ยังสับสน
ในเรื่องราว
... “ ความฝัน ” แต่ละคน อลวนปนเป เฉ ... ไปมา
นั่นเป็นเพราะ
... เหตุ - อะไร ? หนา ที่นำพา
... “ ความฝัน ” ให้เกิดขึ้น
พอนอนหลับสนิท ... ตาปิด กลม ในกมล เป็นต้อง ... ฝัน ในทันใด
ตามตำราบอกว่า หาก ... ฝันเกิดเพราะจิต เป็นนิมิตบอก “ เหตุ ดี หรือ ร้าย ”
พอนอนหลับสนิท ... ตาปิด กลม ในกมล เป็นต้อง ... ฝัน ในทันใด
ตามตำราบอกว่า หาก ... ฝันเกิดเพราะจิต เป็นนิมิตบอก “ เหตุ ดี หรือ ร้าย ”
จะมี
ลาภมากมี หรือ มีภัย ... !!! หายสงสัย ต้องรอดู ... อีกหลายวัน !!!
แต่ถ้า
ฝัน เกิดเพราะ ... ธาตุไม่ปกติ เช่นอาทิ
... กาย และ ใจ ไม่สุขสันต์
ทำให้เกิด “ ฝันเลวร้าย ” ในฉับพลัน วันทั้งวัน นั่งอมทุกข์
... เพราะกังวล !!!
อีกหนึ่ง
ฝัน เกิด เพราะ ใจจดจ่อกับสิ่งหนึ่ง เป็นสิ่งซึ่งต้อง
... ผูกพัน เสียนักหนา
ทำให้ระลึกถึงสิ่งนั้น
... ตลอดเวลา เลยเก็บมา
นอนหลับ ... ฝัน ไม่ยอมลืม !!!
หรือ
... ฝัน เกิด เพราะ “ เทวดาดลบันดาล ” ใช้เป็นสาสน์ จาก ผู้ปกปักและรักษา
ให้
ผู้คน เกิดความฝัน ... ตระการตา นี่แหละหนา
... ชอบเคี่ยวเข็ญ เทวดา
บาง
ความฝัน ช่วยแจ้งเหตุ ... ล่วงหน้า “
ฝันดี ” พา ... เรื่องมงคล ดูเหมาะสม
แต่ถ้าเป็น
“ ฝันร้าย ” ... ตกอับ อัปมงคล
ช่วยเตือนตน ...
ให้ระวัง และ ป้องกัน !!!
อีกคำทำนายโบราณว่า
... “ ฝันคืนวันอาทิตย์ ” ผลลิขิตความฝันเกิดกับ ... คนอื่น
แต่หากนอน
... “ ฝันคืนวันจันทร์ ” เมื่อยามตื่น ใช่ใครอื่น
? ผลได้แก่ ญาติสนิท เพื่อนฝูง
ใคร
? คนอื่น นอนหลับ ... “ ฝันคืนวันอังคาร ” น่าสงสาร ผลนั้นเกิดกับ ... พ่อแม่พี่น้อง !!!
“
ฝันคืนวันพุธ ” ... นอนหลับอุตุ ฉุดไม่อยู่ ควรจะรู้ ผลตกกับ บุตร
ภรรยา หรือ สามี
ผลจะดีหรือไม่ดี ... “ ฝันวันพฤหัสบดี ” ผลที่มีเกิดกับ ครู อาจารย์
หรือ ผู้ที่เคารพ
ตกตอนดึกนึกได้ว่า
... “ ฝันคืนวันศุกร์ ” ถึงขนลุก ผลของฝันเกิดกับ ... สัตว์เลี้ยง
“
ฝันคืนวันเสาร์ ” ... รับรองไม่ลำเอียง ไม่ต้องเถียง
ผลของมันตกกับ ... ตัวเอง !!!
ขอขมวดจบเรื่อง
... “ คำทำนายฝัน ” ขอสักวันให้นอนหลับ
... บ้างเถิดหนา
คืนนี้
!!! จะได้ “ หลับฝัน ” เห็น เทวดา ท่านจะมา .... “
บอกหวย ” ช่วยสักที !!!
เรื่องเล่าจากวันวาร
ตอน เรือไทย
ยุคหนึ่ง
... ก่อนที่ อาณาจักรสุโขทัย
จะถูกสถาปนาเป็น อาณาจักรแรกของคนไทย มีเรื่อง
ราวของชนชาติหนึ่งที่รู้จักกันในนาม “ ชาวสยาม ” สร้างชุมชนในบริเวณ “ ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระ
ยาตอนกลาง
” ซึ่ง นักประวัติศาสตร์
เชื่อว่า ชนชาติสยาม คือ ชนชาติไทย
จากหลักฐาน
ที่ได้มีการบันทึกไว้ใน “ ศิลาจารึกภาษาจาม ” ที่ขุดพบที่ เมืองนาตรัง เวียดนามใต้
ซึ่งเคย
เป็นดินแดนใน อาณาจักรจัมปา !!!
จากการที่ “ ชาวสยาม ” มีชีวิตความเป็นอยู่
และบ้านเมืองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
ทำให้ได้ข้อสันนิษ
ฐานว่า “
ชาวสยาม ” ในยุคนั้นรู้จักการใช้ “
เรือ ” เป็นพาหนะในการเดินทางไปหาสู่กัน และ
ต่อมา “ เรือ ” ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ วิถีชีวิตของ
คน ในยุคสมัยนั้นและในยุคต่อ
ๆ มา !!!
สมัยสุโขทัย
!!!
จากคำจารึกบน
... ศิลาจารึกหลักที่ ๔ ด้านที่ ๔ ก็พอที่จะสรุปได้ว่า สมัยสุโขทัยมีการสร้างเรือ
เพื่อใช้ในการเดินทางติดต่อซึ่งกันและกันแล้ว
และเป็น พาหนะทางน้ำ ที่ได้รับความนิยมจากประ
ชาชนมากกว่า พาหนะทางบก เพราะสร้างง่ายกว่า และมีประโยชน์ใช้สอยมากกว่า นอกจากนั้น
“ เรือ ” ยังสามารถใช้ได้ทุกโอกาสและฤดูกาล !!!
สมัยกรุงศรีอยุธยา !!!
หลักฐานจารึกใน
... จดหมายเหตุจีน ทั้ง ตำนานและพงศาวดาร บันทึกว่า พุทธศตวรรษที่ ๑๘
มีการรวมเมืองในลุ่มน้ำเจ้าพระยา สร้างเป็น “ เครือข่ายทางเศรษฐกิจ และ วัฒนธรรม ” ออก
ไปสู่โลกภายนอก !!!
จนกระทั่งมีการสถาปนา
“ กรุงศรีอยุธยา ” เป็นเมืองหลวง ของ ไทย เมื่อ ปี พ.ศ. ๑๘๙๓ มีการรวบรวมเอาแว่นแคว้นต่าง ๆ
เข้ามาเป็นอาณาจักร
และมีการติดต่อค้าขายระหว่าง “ จีนและไทย ”
ในสมัย
อยุธยาตอนต้น จะใช้ “ เรือสำเภา ”
เป็นหลักและ เรือสำเภาจีน ก็มีบทบาทสำคัญเป็น
อย่างมาก
ในการเชื่อมโยงอารยธรรม ต่าง ๆ มาสู่ ... กรุงศรีอยุธยา !!!
สมัยกรุงศรีอยุธยา
การค้าขายกับชาวต่างประเทศ เจริญรุ่งเรืองมาก
ทำให้ต้องมีการสร้าง เรือเดิน
ทะเลขนาดใหญ่ เช่น เรือสำเภาและเรือกำปั่นไว้สำหรับลำเลียงสินค้า จึงมีอู่ต่อเรือหลวงอยู่เป็นจำนวนมาก เฉพาะที่ ท้ายบ้านท่าเสือข้าม
มีอู่ต่อเรือสำเภาและเรือกำปั่นหลวงถึง ๑๘ อู่
!!!
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
!!!
แม่น้ำ
และ ลำคลอง มีประโยชน์กับ คนไทย เป็นอย่างมาก เช่น
การลำเลียงสินค้าขนส่ง “ เครื่องปั้นดินเผาสังคโลก ” ใน สมัยสุโขทัย โดยใช้
เรือสำเภาบรรทุกไปในทะเล นอกจาก
นั้น ยังมีการหารายได้เข้าประเทศ โดยเป็น “ ตัวแทนการค้า ” โดยรับสินค้าจากจีน
เช่น ถ้วย
ชาม ผ้าไหม และอื่น ๆ เข้ามาขายในประเทศ และประเทศใกล้เคียง
มีการ
“
ขุดคลอง ” เป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่สมัย
พระบาทสมเด็จพระบรมธรรมิกราช
โปรดเกล้าฯ
ให้ขุดคลองคูพระนคร ๒ คลอง
ในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้ขุด ...
คลองบางลำภู คลองหลอด
คลองมหานาค !!!
รัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ โปรดให้ขุด ... คลองปากลัด
รัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โปรดให้ขุดคลองอีก ๔ คลอง
โดยเฉพาะ ... คลองแสนแสบ ซึ่งจัดว่าเป็นคลองที่ยาวที่สุด !!!
รัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดให้ขุด คลองผดุงกรุงเกษม
การขุดคลองเป็นจำนวนมากก็เพื่ออำนวยความสะดวก ในการเดินทางด้วย “ เรือ ” ของ
ประชาชน ซึ่งแน่นอนว่า
จะต้องมีจำนวนมากมายเหลือคณานับ !!!
จนอาจจะกล่าวได้ว่า สมัยรัตนโกสินทร์ เป็น “ ยุคทอง ” ของการเดินทางด้วย “ เรือ”
รุ่งเรืองถึงขีดสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น