๒๔ สำนวนไทย จาก พฤติกรรมแมว
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
กลับมาคุยกันวันนี้เรื่อง
... แมว !!! อีกครั้งครับ ( ตามประสาทาสแมวผู้ซื่อสัตย์ )
บ่อยครั้งทีเดียวเลยนะครับที่เรามักจะได้ยิน
สำนวนไทย ที่เกี่ยวกับ แมว หรือ พฤติกรรมของ
แมว
นำมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของ ... คน !!!
วันนี้ผมเลยลองรวบรวมเอา
สำนวนไทย จาก พฤติกรรมของแมว มาให้รู้กัน
เรามาเริ่มกันที่
...
๑. กินบนเรือนขี้บนหลังคา
อาการแมวนิสัยเสีย
มาเปรียบกับ คน ที่มาอาศัยพึ่งใบบุญคนอื่นอยู่ในบ้านเขา
แล้วทำเรื่องไม่ดีขึ้นในบ้านเขาทำให้เจ้าของบ้านเดือดร้อน แบบนี้เรียกกันว่า เนรคุณเจ้าของบ้าน
!!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
๒. กินเป็นแมวดม
แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ
แต่เมื่อคนเลี้ยงเวลาให้อาหาร เช่น ข้าวคลุกปลาทู แน่นอนว่า แมวเลือกกินแต่ปลาเหลือแต่ข้าวไว้
เราจึงเรียกคนที่ทานข้าวแต่น้อยแต่หนักไปทางกับข้าวว่า กินน้อยเป็นแมวดม !!!
๓. แกงจืดจึงรู้คุณเกลือ หนูกัดเสื้อจึงรู้คุณแมว
สิ่งของที่มี
คุณค่า อยู่กับตัวแต่กลับไม่เห็นคุณค่าหรือความสำคัญของมัน ต่อเมื่อ ขาดของสิ่งนั้น
ไปจึงได้ ตระหนักถึง ... คุณค่าของมัน !!!
๔. กลัวเหมือนหนูกลัวแมว
สำนานนี้
จับเอาอาการของ หนูที่กลัวแมว มาเปรียบเทียบหมายถึงอาการที่ ใคร ? คนหนึ่ง
กลัวผู้อื่นมาก ๆ สำนวนนี้ใช้กับผู้ใกล้ชิดหรือคุ้นเคยกัน
!!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
๕. ขี้แล้วกลบเป็นแมว ขี้แล้วแจวเป็นหมา
แมว
มีนิสัยรักความสะอาด ขี้แล้วจะกลบ
เลยนำเอาพฤติกรรมของมันมาเทียบกับ คนดี ที่กระทำแต่สิ่งที่ดีงาม ตรงข้ามกับ
คนชั่ว ที่กระทำแต่สิ่งที่เลวทราม !!!
๖. จับแมวแจวเรือ จับเสือไถนา
แมวเป็นสัตว์
ย่อมแจวเรือไม่ได้ สำนวนนี้เปรียบกับ การ ใคร ? บางคนพยายามทำสิ่งที่ เป็นไปไม่ได้
และไม่มีทางที่จะ ทำสำเร็จ หรืออีกสำนวนก็ว่า วางงานผิดท่า วางค่าผิดคน
!!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
๗. ใช้แมวเฝ้าปลาย่าง
ปลาย่างเป็นของโปรดแมว
เมื่อเอาแมวมาเฝ้าปลาย่าง ... ก็เสร็จแมวซิครับ สำนวนนี้จึงเปรียบดั่งให้ หญิงกับชาย
ที่ รักชอบพอกัน อยู่ใกล้กัน แน่นอนว่า มันอาจทำให้เกิด เรื่องไม่ดีไม่งาม
ขึ้นมาได้ !!!
๘. ซื่อเหมือนแมวนอนหวด
ธรรมชาติของ
แมว คือ ชอบนอนนิ่งเฉย แต่ยามปกติ จะปราดเปรียวว่องไวเป็นที่สุด เปรียบได้กับ
คนที่ทำเป็นซื่อใสแต่คดโกง ไว้ใจไม่ได้ หรือ ซื่อแต่ซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ภายใน
!!!
๙. ตีนแมว
สำนวนนี้มาจาก
อุ้งเท้าของแมวที่มีขนปกคลุม ดังนั้นเวลาแมวเดินหรือกระโดดแทบจะไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของมัน
สำนวนนี้จึงนิยมเอามาใช้เรียก พวกหัวขโมย !!!
๑๐. ที่เท่าแมวดิ้นตาย
สำนวนนี้มาจากเรื่อง
ศรีธนญชัย ที่ใช่เล่ห์อุบายขอพระราชทานที่ดิน
โดยใช้เชือกยาวผูกคอแมวแล้ววิ่งไล่ตีมันจนกว่ามันจะตาย โดยหมายถึง ที่ดินผืนเล็กจำกัดเพียงนิดเดียว
ไม่ใหญ่โตนัก เท่าแมวดิ้นตาย !!!
๑๑. ปิดประตูตีแมว
สำนวนนี้หมายถึง การกระทำประทุษร้าย ต่อ ผู้ที่ไม่มีทางหนีรอดจากที่กักขัง
เหมือนปิดประตูขังแมวเอาไว้ในห้องคับแคบเพื่อกันไม่ให้มันหนีแล้วไล่ตีมัน !!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
๑๒.
เป็นหนูเป็นแมว
สำนวนนี้มาจากอาการที่
หนูกลัวแมว จนหงอ โดยจับเอามา หนู มาแทน คน ที่มี ความเกรงกลัว
ต่อใคร ? อีกคนที่เปรียบได้ดั่ง แมว !!!
๑๓. ฝากปลาย่างไว้กับแมว
แมวชอบกินปลา
ดังนั้น การให้แมวเฝ้าปลาย่าง ก็เหมือนกับว่าให้ แมวกินปลา ตีสำนวนนี้ได้ความว่าหมายถึง
การที่เรา ฝากคนรักเอาไว้กับคนเจ้าชู้ ซึ่งย่อมแน่นอนว่า
จะเกิดเรื่องไม่ดีงานขึ้นอย่างแน่นอน !!!
๑๔. ฝากเนื้อไว้กับเสือ ฝากปลาไว้กับแมว
สำนวนนี้
ความหมายใกล้เคียงหรือเหมือนกับสำนวนที่ว่า ฝากปลาย่างไว้กับแมว หมายถึง ฝากสิ่งของกับคนที่ชอบสิ่งนั้น
ย่อมสูญหาย เหมือนกับ ไว้วางใจ คนที่ไม่ควรไว้วางใจ
!!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
๑๕.
แมวขโมย
สำนวนนี้มาจากพฤติกรรมของ
แมว ที่มักจะขโมยปลาหรือเนื้อที่ตากหรือทิ้งวางไว้มากิน ดังนั้นสำนวนนี้จึงหมายความถึง
คน ที่แอบลักลอกเป็น ชู้ กับ ใคร ? อีคน ในเวลาที่ คู่ครอง
เขาหรือเธอไม่อยู่ !!!
๑๖.
ยื่นหมูยื่นแมว
แน่นอนว่า
หมู กับ แมว มีราคาที่แตกต่างกัน ดังนั้นสำนวนนี้ จึงหมายถึง
เวลาเอาของที่มีค่าต่างกันมาแลกกัน ต่างฝ่ายต่างให้และรับของในเวลาเดียวกัน
เรียกว่า ยื่นหมูยื่นแมว !!!
๑๗.
แมวนอน จับหนูไม่ได้
สำนวนนี้
เอาพฤติกรรม ความขี้เกียจของแมว ที่ชอบนอน มาเปรียบกับ คนเกียจคร้านการงาน
จึงมักที่จะปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไป !!!
๑๘.
แมวห้าหมาหก
แมวออกลูก
คลอกละหลายตัว จึงเป็นภาระหนักต่อผู้เลี้ยงที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น สำนวนนี้จึงเปรียบแมวเหมือนกับ
คน ที่ สร้างเรื่องเดือดร้อน มากมายให้กับ ใคร ? คนอื่น ในเวลาเดียวกัน
!!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
๑๙.
แมวเห็นปลาย่าง
สำนวนนี้มีความหมายถึง
ใคร ? คนหนึ่ง ที่พบเห็นสิ่งที่ชอบ แล้ว ย่อมที่จะไม่ปล่อยวางให้สิ่งที่ชอบนั้นผ่านเลยไป
เหมือน แมวเห็นปลาย่าง ที่เป็นของโปรด !!!
๒๑.
มอมเป็นแมว
สมัยก่อนนั้น
แมว มักที่จะแอบนอนในเตาไฟที่ดับแล้ว ตัวจึงคลุกขี้เถ้า ฝุ่นผงเต็มตัว ประกอบกับ
แมวไม่ชอบอาบน้ำ เนื้อตัวจึงขะมุกขะมอมสกปรกมอมแมม สำนวนนี้จึงเปรียบได้กับ คนสกปรก
!!!
๒๒.
หน้ามอมเป็นแมวคราว
สำนวนนี้คล้ายสำนวน
มอมเป็นแมว แต่ แมวคราว นั้นเป็น แมวตัวผู้ขนาดใหญ่ ดุร้ายและไม่ขี้ประจบเหมือนแมวทั่วไป
สำนวนนี้จึงเปรียบได้กับ คนที่มีหน้าตามอมแมมสกปรก และ ดูน่ากลัว
!!!
๒๓. แมวมอง
สำนวนนี้เป็น
ชื่อเฉพาะ สมัยโบราณ หมายถึง กองทหารสอดแนม ที่มีหน้าที่คอยจับตาดูเหตุการณ์ต่างๆ
หรือเรียกอีกชื่อว่า เสือหมอบแมวเซา
ในปัจจุบันมีผู้นำเอาสำนวนนี้มาใช้เรียก
คนที่มีหน้าที่หาผู้มีความสามารถหรือความสวยงาม เพื่อมาปั้นเป็นดารา !!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
๒๔.
แมวไม่อยู่หนูร่าเริง แมวมาหลังคาเปิง
สำนวนนี้เอามาจากพฤติกรรมของ
แมวกับหนู เปรียบได้กับ หัวหน้า คือ แมว ที่คอยควบคุม ลูกน้อง
หรือ หนู ... ให้อยู่ในระเบียบวินัย แต่ในเวลาที่ หัวหน้า ไม่อยู่ ลูกน้อง
จะแหกกฎทันที !!!
เรื่องราวของ
แมว มีให้คุณเรียนรู้อีกมากมาย ไม่รู้จบ !!!
ตามประสา
... แมว แมว
หวังว่าคนที่เป็น
ทาสแมว อย่างผม ... คงชอบนะครับ !!!
เรื่องเล่าจากวันวาร
ตอน ขนมบ้าบิ่น
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
ในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ครั้งหนึ่งเคยมีคนถาม ก.ศ.ร.กุหลาบ (
กุหลาบ ตฤษณานนท์ ) เอดิเตอร์หนังสือ สยามประเภท ว่า ทำไม ? ถึงเรียก ขนมแป้งไส้มะพร้าวอ่อนชนิดหนึ่งที่
เหนียวนุ่ม หอมกลี่นมะพร้าวและกะทิ ว่า ขนมบ้าบิ่น !!!
ก.ศ.ร.กุหลาบ
ตอบว่า เพราะขนมนี้ ป้าบิ่น ชาวชุมชนนานาชาติ
กุฎีจีน ย่านฝั่งธนบุรี เป็นคนทำขนมชนิดนี้ขึ้นมา เลยเรียกกันว่า ขนมป้าบิ่น
ครั้นเวลาล่วงเลยมาคนเราเรียกชื่อ ขนมป้าบิ่น เพี้ยนมาเป็น ขนมบ้าบิ่น
!!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
แต่ก็มีบางความเห็นที่เห็นต่างว่า
ขนมบ้าบิ่น น่าจะดัดแปลงมาจาก ขนมโปรตุเกส ที่ชื่อ เกลชาดาซ เดอ
กรูอิงบรา ( Queijadas de Coimbra ) ซึ่งเป็น
ขนมที่ทำมาจาก แป้ง ชีส ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตรงกลางเป็น ไส้ขนมนิ่ม ๆ คือ เนยแข็ง แต่ คนไทยดัดแบลงมาใช้ มะพร้าว
แทน เนยแข็ง !!!
ชื่อ
ขนมบ้าบิ่น น่าจะใช้คำว่า bra คำท้ายสุดของชื่อขนม Queijadas
de Coimbra มาเป็นชื่อขนมว่า ขนมบ้า ต่อมาได้เติมคำว่า บิ่น
ต่อท้ายเข้าไป กลาย ขนมบ้าบิ่น มาจนตราบทุกวันนี้ !!!
ขอบคุณภาพประกอบ : GOOGLE
เรื่องเก่า ที่นำมาเล่าใหม่ ผมว่ามีแง่มุมที่น่าสนใจมากทีเดียวนะครับ !!!
สำหรับคนที่ใส่ใจ และ แสวงหาความรู้ เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา
ผมเชื่อว่า ... อดีต คือ วันวาร ที่เป็นฐานรากของ ปัจจุบัน คือ วันนี้
และต่อยอดไปสู่ ... อนาคต ใน วันพรุ่งนี้ !!!
ดังนั้น ถ้าเราไม่มี วันวาร ให้ จดจำ ... เราก็จะไม่มี วันนี้ ให้ คิดถึง
และเมื่อเป็นเช่นนี้ อนาคต ใน วันพรุ่งนี้ ... !?! ( ตอบไม่ได้ครับ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น