วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เ้รื่องเล่าจากวันวาร ตอน กุญแจ



สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล


สุภาษิตคำไทยที่ว่า ... สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล หมายถึง คำพูดและท่าทางของ ใคร ? คนหนึ่ง ที่เขาได้แสดงออกมาต่อหน้าธารกำนัลสามารถบอกให้รู้ถึง ชาติกำเนิด และ ชาติตระกูล ของ ใคร ? คนนั้น ได้เป็นอย่างดี !!!
ใช่ครับ !!!  ...
สำเนียง  บอกได้ถึง ชาติกำเนิด ที่มา โคตรเหง้า ของ ผู้พูด โดยรู้ได้จาก ภาษา ที่สื่อออกมา
แต่ กริยา ที่แสดงออกมา นอกจากจะบอกถึง ชาติตระกูล แล้ว
กริยา ... ยังสามารถที่จะบอกได้ถึง ... นิสัย  อีกต่างหาก !!!
แล้วคุณทราบไหม ? ครับว่า ... อากัปกริยา ที่ ใคร ? บางคน ทำมันเป็นประจำนั้น มันบอกถึงนิสัยของ ใคร ? คนนั้นว่า ... อย่างไร ? 

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

คน ... ขี้อวด !!!
ชอบคุยโต คุยโม้ โอ้อวด ยกตนข่มท่าน
กริยานี้บอกว่า ... คนแบบนี้ แน่นอน ... นิสัยชอบทำตัวเป็น จุดสนใจ ทั้งที่บางทีอาจจะไม่มีอะไร ?  ที่น่าสนใจ ... ก้อตาม พวกฉาบเปลือกที่ปลื้มวัตถุนิยมมักจะชื่นชม !!!

คน ... ชอบพึมพำ !!!
ขยับปากพูดมุบมิบอยู่คนเดียว
กริยานี้บอกว่า ... คุณเป็น คนเปิดเผย  มักจะเห็นอกเห็นใจคนอื่นอยู่เสมอ เป็นคนที่มี รอยยิ้มบนใบหน้า อยู่เสมอด้วย ... นิสัยแบบนี้ น่ารักดีครับ !!!

คน ... ชอบฮัมเพลง
มักที่จะร้องเพลงในลำคอแม้จะไม่มีดนตรี
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนอารมณ์ดี เป็นมิตร ชอบเรื่องสนุก เวลาชวนไปเที่ยว ... รับรองว่าเป็นเพื่อนเที่ยวที่ดีแน่ !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

คน ... นั่งไขว่ห้าง
ท่านั่ง บ่งบอกถึงความไม่เป็นมิตร
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนมีมนุษย์สัมพันธ์แย่มาก ปฏิเสธผู้อื่น ไม่ต้องการใครอยู่ใกล้ และอยู่ใกล้ใคร
คุณอยากอยู่คนเดียว ... อย่าไปยุ่งกับเขาเลยดีกว่า !!!

คน ... ชอบยักคอ
พฤติกรรมชอบยักคอยักไหล่ หรือ บิดคอไปมา
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนเคร่ง ขรึม ที่แสดงออกมานั้นไม่ใช่อาการเมื่อยขบ แต่เป็นการลดความเครียด หรือ ประหม่า ทำอะไร ? ไม่ถูก ... ได้แต่ยักคอไปมา !!!

คน ...เซื่องซึม
มักอยู่ในท่าทาง หงอยเหงา ซึมเซา ตลอดเวลา
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนเก็บตัว ไม่ค่อยเข้าสังคม หรือ เข้าสังคมไม่เก่ง มีโลกส่วนตัวที่มักจะเข้าไปอยู่ในโลกนั้นคนเดียว ... ระวัง โรคซึมเศร้ามาเยือน !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

 คน ... ชอบกัดเล็บ
เผลอตัวทำเวลาเครียดหรืออยู่ว่างๆ
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนขี้เหนียว ไม่ชอบเปย์ มักที่จะเลี่ยงหายเวลาจ่ายเงิน คนแบบนี้เห็นแก่ตัวที่สุด ไม่มีใคร ? ชอบหรอกครับ ... เพราะคุณอาจจะต้องเป็นคนจ่ายฝ่ายเดียว !!!

คน ... ชอบแลบลิ้น
เวลาที่ทำผิดพลาดหรือแก้เขิน
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนมีนิสัยดื้อรั้น คบค้าสมาคมกับใคร ? ยาก เพราะในใจปิดกั้นและชอบมักจะออกตัวด้วยการปฏิเสธเสมอเพราะ ... ความคิดเขาเป็นใหญ่ !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

คน ... ชอบถ่มน้ำลาย
ซกมก และ ไม่มีมารยาท
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนเอาใจยาก ชอบวิตกกังวลเรื่องความสะอาดและคราบเหงื่อของคนที่สมาคมด้วยว่า สะอาดเนี้ยบอยู่เสมอ หากวันไหน คนคบหาด้วย มีเหงื่อโทรมมาล่ะก้อ ...  เขาจะชิ่งและตีตัวออกห่าง ทันที !!!

คน ... ชอบกระพริบตา
ติดนิสัยชอบกระพริบตาถี่
กริยานี้บอกว่า ...  คุณเป็น คนเข้าใจยาก  จับจด ชอบที่จะพูดเล่นหรือทำอะไรเล่นๆ ไม่เป็นโล้เป็นพาย ไม่ค่อยจริงจัง และ ไร้สาระ อย่างที่สุด  ..คำเตือน ควรระวังไว้กับคนประเภทนี้ !!!

ลองสำรวจตัวเองนะครับว่า ... กริยาแบบไหน ? ที่คุณชอบทำบ่อย ๆ หรือทำแบบไม่รู้ตัว
ถ้าดี ... ทำต่อไป แต่ถ้าไม่ดี ... เปลี่ยน หรือ เลิกทำ ซะ !!!
ชีวิตอาจจะ ... ดีขึ้น

เรื่องเล่าจากวันวาร

ตอน   กุญแจ


ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า ใคร ? หรือ ชาติใด ? ที่เป็นผู้ประดิษฐ์ กุญแจ ... แต่มีข้อสันนิษฐานว่ากุญแจกลไกลูกแรก ทำด้วยไม้ และมีการพัฒนาแบบอิสระในหลาย  ๆ พื้นที่ ในเวลาเดียวกัน เช่น จีน เปอร์เซีย อียิปต์ แอสซีเรีย กรีก และโรมัน
ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

จากหลักฐานบน ภาพวาดเฟรสโก ในวิหารอียิปต์โบราณแสดงให้เห็นว่า กุญแจไม้ ถูกใช้มาตั้งแต่ ๔,๐๐๐ ปีก่อน โดย กุญแจที่รู้จักครั้งแรกเป็น กุญแจแบบพิน โดยจะใช้ พินไม้ ซึ่งจะสอดลงไปใน รูบนไม้ขัดแตะประตู ตามแรงโน้มถ่วงของโลก เป็น สลักล็อค ทำให้ไม้ขัดแตะเลื่อนไม่ได้  ส่วน ลูกกุญแจ จะใช้ แท่งไม้ ที่มีความยาวที่พอดีกับ พินไม้ ในรูบนขัดแตะประตู เมื่อสอดแท่งไม้เข้าไปในรู สลัก จะถูกดันขึ้นในระยะที่พอดี ทำให้มัน ปลดล็อค และสามารถเลื่อนขัดแตะประตูออกได้ !!!
ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

กุญแจแบบพิน ถูกพบใน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ อียิปต์ และ อินเดีย และถือว่าเป็น ต้นแบบกุญแจล็อค ที่ใช้กันในทุกวันนี้ ต่อมา มีการพัฒนาวัสดุที่ใช้ในการผลิตจาก ทองเหลือง หรือ เหล็ก

กุญแจโลหะ เป็นเครื่องแสดงสถานะทางสังคมของ ชาวอียิปต์โบราณ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการประดับด้วยการฝังมุก ทอง และเงินบนกุญแจในซาก เมืองปอมเปอี  

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ชาวโรมันโบราณ พัฒนาระบบกุญแจให้ดีขึ้นอีกโดยรวมระบบ กุญแจของอียิปต์ และ กรีก เข้าด้วยกัน และคิดค้นกลไกกุญแจที่ติดตั้งด้านในประตู แต่สามารถไขกุญแจจากด้านนอกของประตูผ่านรูกุญแจได้ ดังนั้นชาวโรมัน จึงเป็นชนชาติที่ทำให้กุญแจเป็นที่รู้จักและนิยมในยุคนั้น เพราะนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง พกพาง่าย แล้ว ลูกกุญแจ ยังมีขนาดเล็กลง !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ปี ค.ศ. ๑๑๗๘  การพัฒนาระบบกุญแจสมัยใหม่ถูกเริ่มอย่างจริงจัง ในประเทศอังกฤษ โรเบิร์ต บาร์รอนประดิษฐ์ กุญแจแบบ lever tumbler lock ซึ่งเป็น กุญแจเพื่อความปลอดภัย อย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นมีนักประดิษฐ์อีกหลายคนพัฒนากุญแจอย่างต่อเนื่อง

ปี ค.ศ. ๑๘๔๔  ไลนัส เยล ได้ประดิษฐ์กุญแจระบบ ไส้พินโลหะ โดยมี ลักษณะพื้นฐานแบบเดียวกันกับระบบกุญแจของอียิปต์ยุคแรกๆ และต่อมาลูกชายของเขา ไลนัส เยล จูเนียร์ ได้พัฒนาให้ลูกกุญแจแบนและเล็กลงโดยมีขอบหยัก (มีลักษณะเหมือนลูกกุญแจในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นลักษณะพื้นฐานของกุญแจแบบพินโลหะสมัยใหม่ !!! 

ปี ค.ศ. ๑๘๕๗  เจมส์ ซาร์เจนท์ ได้ประดิษฐ์คิดค้นระบบ กุญแจแบบรวม ได้เป็นผลสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ผลงานการคิดค้นกุญแจของเขาได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ผลิตตู้นิรภัยและกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา
ขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ปี ค.ศ. ๑๘๖๒ ไลนัส เยล จูเนียร์  วิศวกรเครื่องกลและผู้ผลิตกุญแจได้จดสิทธิบัตรไส้กุญแจระบบพินโลหะ ซามูเอล ซีกัล  อดีตตำรวจเมืองนิวยอร์ก ประดิษฐ์ กุญแจจิมมีปรู๊ฟล็อค อันแรกขึ้นมา
ปี ค.ศ. ๑๙๑๖  แฮร์รี่ โซเรฟ ประดิษฐ์ กุญแจสายยู ซึ่งแข็งแรงและง่ายต่อการใช้ โดยโครงสร้างของกุญแจทำด้วย แผ่นโลหะ !!!

การพัฒนากุญแจในยุคปัจจุบัน ทำให้การใช้งาน กุญแจล็อค มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ !!!


วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เรื่องเล่าจากวันวารถึงวันนี้ ตอน เกมบิงโก



ดนตรี คือ ชีวิต !!!


ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE

ชนใดไม่มี ... ดนตรีกาล         ในสันดานเป็น คนชอบกล นัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ    เขานั้นเหมาะคิด กบฎอัปลักษณ์
ฤๅ อุบายเล่ห์ร้าย ขมังนัก       มโนหนัก ... มืดมัว เหมือนราตรี
อีกดวงใจย่อม ดำสกปรก        ราว นรก เช่นกล่าวมานี่
ไม่ควรใคร ไว้ใจ ในโลกนี้        เจ้าจงฟัง ดนตรี ... เถิดชื่นใจ

พระราชนิพนธ์แปล ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
จากต้นฉบับ เวนิช วาณิช ของ วิลเลี่ยม เช็กเปียร์


ใช่ครับ  
ดนตรี คือ ชีวิต ...!!!
แต่ ชีวิต กลับไม่ใช่ ดนตรี
ดนตรี เล่นไปตาม จังหวะ ... ชีวิต ก็เต้นไปตาม จังหวะ
บางครั้ง บางครา หรือ ในบางที ... ชีวิต เป็นที่มาของ ดนตรี !!!
สนุกสนาน / ผิดหวัง ...  รัก / เศร้า เหงา ... สมหวัง หรือ อกหัก 
แต่ คุณรู้ไหมว่า ดนตรี บอกนิสัยคน ได้ 
มาลองดูกันซิว่า ... ดนตรี บอกอะไร ? คุณ
เพียงแค่ ... คุณชอบดนตรีประเภทไหน ?


BLUES
ดนตรี กรีดอารมณ์ แช่มช้า ลุ่มลึก
ใคร ? ที่ชอบ เพลงบูลล์  คุณเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง มากด้วยความคิดสร้างสรรค์ ชอบออกสังคม มากเลยนะ ...  ที่สำคัญ คุณเป็น คนสุภาพอ่อนโยน และ อบอุ่น !!!

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 

JASS
ดนตรีสนุก รื่นเริง กับ เครื่องเป่า และ เปียโน
คนที่ชอบ เพลงแจ๊ส คุณเป็นคนมั่นใจในตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบที่จะออกสังคม แสดงตัวตน และแน่นอนว่าคุณเป็น ... คนอบอุ่น !!!

CLASSIC
ดนตรีบรรเลงงดงาม
ถ้าหากใคร ? คนนั้นชอบ เพลงคลาสสิค เชื่อได้ว่าเป็นเขามั่นใจในตัวเอง มากด้วยความคิดสร้างสรรค์ ... เขาเป็นที่สนใจในตัวเอง แต่ในบางครั้งเขาก็เป็น คนอบอุ่น เหมือนกัน !!!

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 


RAP
วัฒนธรรมดนตรีดีกรีเถื่อนดิบ  
คุณชอบ ดนตรีแร็พ เพราะคุณเป็นคนที่มีดนตรีในหัวใจ คุณมั่นใจในตัวเองมากถึงมากที่สุด ... อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คุณเป็นอีกคนที่ชอบออกสังคม !!!

OPERA
เสียงโซปราโน่อันทรงพลัง
แน่นอนว่า คนที่ชอบ เพลงคลาสสิค มักที่จะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์ และ ... เป็นคนสุภาพอ่อนโยน !!!

REGGAE
ดนตรีสนุก แนวทางแคริปโซ่
ถ้าคุณชอบ เพลงเร็กเก้  คุณเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ ไม่ค่อยชอบงานหนักชอบออกสังคม ... เป็นคนสุภาพอ่อนโยนและอบอุ่น !!!

DANCE
ดนตรีออกสเต็ป โชว์ลีลา
ใคร ? ที่ชื่นชอบ เพลงแดนซ์  ได้ชื่อว่าเป็นคนสนุก สร้างสรรค์ และ ชอบออกสังคม แต่ใช่ว่า ... จะเป็นคนอ่อนโยนก็หาไม่ !!!

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE  
INDIE
ดนตรีอิสระสร้างสรรค์
คนที่ชอบ เพลงอินดี้  มักที่จะเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเลย ไม่สุภาพอ่อนโยน และยังไม่ชอบงานหนักอีกด้วย ... แต่เป็นนักสร้างสรรค์ที่ดี !!!

HEAVY METAL
จังหวะดนตรีหนักหน่วง 
คนไหน ? ชอบความมันส์ สะใจ โยกกันหัวสั่นหัวคลอน ชื่นชอบ เพลงร็อก-เฮฟวี่เมทัล  คนนั้นจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ไม่ชอบออกงานสังคม ไม่สู้งานหนัก แต่เป็นชอบสร้างสรรค์ อ่อนโยนและอบอุ่น !!!


ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 

POP
เพลงง่าย ๆ ดนตรีเบา ๆ เข้าถึงอารมณ์
หากว่าคุณชอบ เพลงป๊อป แล้วละก้อคุณเป็นคนมั่นใจในตัวเอง สู้งาน ชอบงานสังคมและเป็นคนสุภาพ แต่ไม่ค่อย ... จะมีความคิด หรือเป็นนักคิด  และ ไม่อบอุ่น !!!

ก็แบบนี้แหละครับ ... ชีวิต 
จะเอาแน่อะไร ? กับ ... ชีวิต เต้นไปตามจังหวะ ช้า หรือ เร็ว ... อยู่ที่ จังหวะชีวิต !!! 

เรื่องเล่าจากวันวาร

ตอน เกมบิงโก


เกมบิงโก ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่ามาจากที่ใด ?

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 

แต่ย้อนไปในปี ค.ศ. ๑๕๓๐  ที่ ประเทศอิตาลี ซึ่งเดิมนั้น  บิงโก  รู้จักกันในนาม เกม Le Lotto (เลอ ล็อตเตอ) ที่มีจุดเริ่มมาจาก เกมจับฉลาก โดยจะจัดกันเป็นกันเป็นประจำทุกสัปดาห์
ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๗๗๐ ประเทศฝรั่งเศส  เห็นว่า เกม Le Lotto น่าสนใจ จึงได้นำมาเล่นกัน แต่นิยมเล่นกันเฉพาะใน กลุ่มคนร่ำรวย และส่วนใหญ่จะนัดรวมตัวเล่นกันใน งานปาร์ตี้ และ งานสังสรรค์ เท่านั้น

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๘๐๐  เกม Le Lotto แพร่หลายไปสู่ ประเทศเยอรมัน และถูกออกแบบใหม่ให้เป็น เกมคณิตศาสตร์ สำหรับเด็ก เพื่อช่วยส่งเสริมและสอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้พร้อมกับการเล่น

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ปี ค.ศ. ๑๙๒๐ เกมกระดานยอดนิยม แพร่หลายและถูกนำไปเล่นทั่วทวีปอเมริกาเหนือครับ และที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกชื่อเกมนี้ว่า BEANO   โดย ผู้เล่นเกม ใช้ เมล็ดถั่ว หรือ เม็ดกระดุม วางลงบนช่องหมายเลขบนบัตรที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ๕ X ๕ แถว มีทั้งหมด ๒๕ ช่อง  ตามหมายเลขที่ ผู้คุมเกม สุ่มจับขึ้นมา ผู้เล่นเกมคนไหนวาง เม็ดถั่ว หรือ เม็ดกระดุม ได้เต็มแถวก่อนจะเป็นผู้ชนะและจะพูดออกมาพร้อมคำว่า Beano ! นั่นเอง  แต่ต่อมาชื่อเกมนี้เริ่มเรียกเพี้ยนไปเป็น บิงโก อย่างที่เรารู้จักกันจนมาถึงทุกวันนี้

ขอขอบคุณภาพ : GOOGLE 

ในระหว่าง ปี ค.ศ. ๑๙๒๙  เกมบิงโก ถูกนำมาใช้เป็น เกมพนัน ใน บ่อนคาสิโน และ ได้มีการพัฒนารูปแบบการเล่นใหม่ ๆ  และรวมไปถึงการเพิ่ม เงินรางวัล ที่น่าดึงดูดมากขึ้น นับจากนั้น เกมบิงโก จึงได้รับความนิยมกันมากตั้งแต่นั้น และถูก กฎหมาย ควบคุมมาโดยตลอด

เอาล่ะครับ ... จบกันตรงนี้นะครับ !!!

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เรื่องเล่าจากวันวาร ตอน ด้วย ๒ มือ ดินสอ สู่ คีย์บอร์ด



ผู้ชาย :  ทาสแมว



ผู้ชาย อย่างผม !!! ... หน้าตาไม่ได้ ... หล่อเลิศ
ผู้ชาย อย่างผม !!! ... ฐานะไม่ได้ร่ำรวยเป็น ...ไฮโซ
ผู้ชาย อย่างผม !!! ... ไม่ได้เป็น ... เน็ทไอดอล
ผู้ชาย อย่างผม !!! ... ไม่ได้เป็นอะไร ? ทั้งสิ้น นอกจาก ...  ผู้ชายธรรมดา  คนหนึ่ง !!!
แต่ ผู้ชาย อย่างผม !!! ... เลี้ยงแมว และผมเป็น ... ทาสแมว
ไม่ผิดหรอกครับ ... ผมเป็นทาสแมว !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

จากประสบการณ์ที่เป็น ทาสแมว มามากกว่า ๕ ปี หลังจากที่ ลูกชาย เอา โชกุน (แมวตัวน้อยอายุ ๒ เดือน) มาเลี้ยง หลังจากนั้นระยะหนึ่ง ... ลูกชาย แยกตัวออกไปเพื่อสร้าง ครอบครัวตัวเอง
ดังนั้น โชกุน จึงตกเป็น ภาระของผม ( ต้องเลี้ยงลูกชายอีกคน ) ... และนั่นคือ สัญญาทาสแมว !!!
จากวันนั้น จน วันนี้ ชีวิตผม ... มีอะไร ? บางอย่างเปลี่ยนไป !!!
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ? ก็ตาม ... ผมเชื่อครับว่า โชกุน ทำให้ผมเปลี่ยนไป !!!
ทำไม ? หรือครับ ... !!!

เลี้ยงแมวแล้ว ... ไอคิวดี !!!
ใช่ครับ ... ฉลาดขึ้น
เคยมีบทงานวิจัยที่ นักสัตว์ศาสตร์ บันทึกไว้ว่า ... ผู้ชายเลี้ยงแมวจะมีไอคิวสูงขึ้น !!!
เพราะ แมว ชอบที่จะเข้ามานัวเนียสัมผัสแนบชิด ทำให้เป็นการเพิ่ม ฮอร์โมนแห่งความสุข ให้ ทาสแมว (ผู้สัตย์ซื่อ) ไปในตัว : และเมื่ออารมณ์ดีแล้วสมองก็จะแจ่มใส ... ความคิดสร้างสรรค์ก็จะกว้างไกล ด้วยเช่นกัน !!!

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

 อยู่ติดบ้าน ... มากขึ้น !!!
เลิกทำตัว ... เสเพลแมน
กิจกรรมที่ โชกุน โปรดปรานที่สุดก็คือ นอนเลียขนอยู่กับบ้าน
ปัจจุบันผมก็เป็นเหมือนกัน (อยู่บ้านนะ ...ไม่ใช่เลียขน) เพื่อนฝูงก็ไม่ค่อยคบ  : ไม่ต้องห่วงเลยว่า ...  ผมจะหนีไปเที่ยวสถานที่ อโคจร ที่ไหน ?  แค่ได้นอนกลิ้งเล่นกับ โชกุน ... ในบ้านแค่นี้ก็พอ !!!

เดาอารมณ์ ... เก่งขึ้น !!!
ทายใจ ... แม่นยำ
ความซับซ้อนทางอารมณ์ของ โชกุน นี่เป็นหนึ่งในใต้หล้าเลยครับ 
ทาสแมว อย่างผม เลยต้องเก่งใน เกมทายใจแมว ทุกวัน : ตอนนี้ ไม่ต้องพูดอะไรมาก ... ก็เข้าใจ และไม่ว่า ใคร ? จะมาอารมณ์ไหน ?  รับรอง ... ผมรับได้หมด ก็ขนาด แมวจ้าวอารมณ์ ผมยังเอาอยู่เลย !!!

เป็นตัวของตัวเอง ... ตลอด !!!
มีตัวตน ... มากขึ้น
จุดยืนของ โชกุน คือ ... THE REAL ONE ซึ่งก็คงไม่ต่างจาก ทาสแมว
ผมเป็นคนที่มีความเป็นตัวตนสูงมาก อาจจะเรียกว่า แอนตี้สังคม ก็ว่าได้นะ :  แต่พอมาเป็นทาสรับใช้แมวเต็มเวลา จาก ... แอนตี้สังคม ก็ กลายเป็น กบฏสังคม ไปเลย !!!


ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ความสัมพันธ์ ... ยั่งยืน !!!
รักไม่มี ... เปลี่ยนแปลง
ตามธรรมชาติ ... ไม่มีแมวตัวไหนชอบเปลี่ยนเจ้าของ โชกุน ก็เหมือนกัน
และแน่นอน ทาสแมว ย่อมไม่ทำให้ นายทาส ผิดหวัง ตอนนี้ ... วันนี้ รับรองว่าไม่มีวันที่ ผม จะแอบไปมีกิ๊กอย่างแน่นอน :  เรียกว่า  รักใครแล้วรักจริง ... ไม่เปลี่ยนแปลง !!!

เปลี่ยนใจ ... ยากยิ่ง !!!
มั่นคง ... จีรัง
โชกุน เป็น แมวจอมกวน หัวดื้อ เจ้าอารมณ์ แสนงอน เอาแต่ใจ สารพัด และอะไร ๆ อีกหลากหลาย
แต่ผมก็ยังคงเป็น ทาสแมว ผู้สัตย์ซื่ออย่างไม่มีแปรผัน  : โชกุนคือโชกุน หรือเป็นเพียงแค่ ใคร ? เป็น ใคร ? ... เท่านั้นพอ !!!

โลกส่วนตัว ... สูง  !!!
เข้าถึง ... ยาก
มี บางมุมส่วนตัว ที่ โชกุน ไม่ยอมให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ทาสแมว ก็เหมือนกัน ผู้คนเลยเข้าใจยาก  :  บทเงียบ ... ใบ้สนิท / แต่บทดี ... ก็ดี จนน่าใจหาย ไม่จำเป็นที่ใคร ? จะต้องมา สนใจ แค่ตอนนี้ยอมรับว่ามันเป็น นิสัยของผม เท่านั้น ... ก็พอ !!!  

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ครับ !!! นั่นคือ คำสารภาพ ของ ทาสแมว !!!
ที่ขอยืนยัน ณ ตรงนี้ ว่า  “ .... ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ”

เรื่องเล่าจากวันวาร

ตอน  ด้วย ๒ มือ ดินสอ สู่  คีย์บอร์ด


สมัยดึกดำบรรพ์  มนุษย์ ในยุคนั้นยังไม่มี ภาษา เป็นของตัวเอง ... แต่พวกเขาก็รู้จักที่จะวาดรูปร่างต่างๆ โดยอุปกรณ์เริ่มแรกที่ถูกนำมาใช้คือ แท่งไม้ หรือ ก้อนหิน เอามาขูดกับผนังถ้ำ เป็นภาพต่างๆ เวลาต่อมา มีการนำเอา ไม้ปลายแหลม มาสร้างรอยบนดินเหนียว

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

๓๐๐๐ ปีก่อนคริสตกาล คนอียิปต์ เป็น ชนชาติแรก ที่คิดค้น กระดาษ ขึ้นมา โดยทำจากต้นกกซ้อนกันเป็นแผ่น เรียกว่า ปาปิรุส และเขียนโดยใช้ ก้านไม้ตัดปลายแหลม จุ่มหมึกเขียนลงบนกระดาษ
วิธีนี้ ถูกนำไปใช้จนแพร่หลายไปทั่วยุโรป แต่ ปาปิรุส มีข้อเสีย คือเมื่อหมึกแห้งแล้ว กระดาษจะเปราะ พับไม่ได้ ทำให้ต้องใช้การม้วน แผ่นปาปิรุส เพื่อเก็บรักษาแทน

๑๒๐๐ ปีก่อนคริสตกาล ประเทศจีน ใช้ แปรง ที่ทำจาก ขนสัตว์ จุ่มหมึกหรือสีจากธรรมชาติแล้ววาดลงบนใบไม้ใหญ่ๆ หรือใช้ ของแหลม แกะสลักลงบนไม้หรือกระดูกสัตว์ แล้วทาสีลงในร่องให้เห็นชัดขึ้น
๓ ปีก่อนคริสตกาล เริ่มมีนำเอา หนังสัตว์ มาใช้แทน กระดาษปาปิรุส แต่ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ปี ค.ศ. ๖๐๐  ชาวกรีกโบราณ ประดิษฐ์ปากกาจาก ต้นกกไส้กลวง ปากกานี้ไม่ใช้หมึกแต่จะเขียนบนผิวไม้ที่เคลือบขี้ผึ้งทำให้เกิดรอยเป็นตัวอักษรบนผิวขี้ผึ้ง  ต่อมาจึงมีการนำ ขนนก หรือ ขนห่าน มาทำปากกา เรียกว่า ปากไก่ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการเขียนหนังสือของชาวตะวันตก ในขณะที่ชาวตะวันออกยังนิยมใช้ พู่กัน

แต่ทั้ง ปากไก่ และ พู่กัน จำเป็นที่จะต้องจุ่มหมึกทุกครั้งที่เขียน ทำให้เกิดไม่สะดวก
แม้ว่า ประมาณศตวรรษที่ ๑๕ จะเริ่มมีการใช้ ปากกาที่มี ปากเป็นโลหะ และ มีรอยผ่าตรงกลางปาก ทำให้เขียนได้นานโดยไม่ต้องจุ่มหมึกทุกครั้งที่เขียนก็ตาม

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ปี ค.ศ. ๑๗๑๔  เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องแรก ถูกสร้างขึ้นในประเทศอังกฤษ สร้างมาเพื่อทำเอกสารทางกฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ไม่เป็นที่แพร่หลายนัก

ปี ค.ศ. ๑๘๐๘  ลาร์ฟ เวดจ์วูด กับ เปลเลกริโน่  เทอร์รี่ สร้างอุปกรณ์คัดลอกเอกสาร เรียกว่า Stylographic Writer โดยนำ กระดาษคาร์บอนมาใช้แทนหมึก และใช้แท่งเหล็กแทนปากกาขนนก
ปี ค.ศ. ๑๘๒๒ มีการประดิษฐ์ ดินสอ ที่ทำจากแท่งกราไฟต์ ขึ้นมา โดย ไส้ดินสอ จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางหนากว่าดินสอแบบปัจจุบัน

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ปี ค.ศ. ๑๘๒๙ วิลเลียม ออสติน สร้างเครื่องพิมพ์ดีดที่เรียกว่า Typowriter แต่ไม่ได้มีปุ่มให้กด เขาสร้างเหมือนโทรศัพท์แป้นหมุน ทำให้การพิมพ์งานช้ากว่าเขียน

ปี ค.ศ. ๑๘๔๖ คอมพิวเตอร์เครื่องแรกถือกำเนิดในชื่อ ENIAC  มีขนาดใหญ่มาก กินพื้นที่เกือบทั้งห้อง วิธีการป้อนข้อมูลของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้เรียกว่า Teletype คือ สร้างบัตรข้อมูลที่เกิดจากการเจาะรูเป็นจุดๆ แล้วเอาเข้าเครื่องอ่าน

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ปี ค.ศ. ๑๘๖๕  Hansen Writing Ball ถูกสร้างขึ้นโดย สาธุคุณแรสมัส เป็น เครื่องพิมพ์ดีดเครื่องแรกที่ทำงานได้สมบูรณ์ และมีดีไซน์ล้ำยุค ซึ่งเรียกความสนใจในยุโรปและอังกฤษได้เป็นอย่างดี
ปี ค.ศ. ๑๘๖๘ บริษัท เรมิงตัน ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดที่ใช้ได้อย่างจริงจังเครื่องแรกของโลก

ปี ค.ศ. ๑๘๘๔ Lewis Edson Waterman ได้ผลิตปากกาที่มีหมึกในตัว เรียกว่า ปากกาหมึกซึม (Fountain pen) ที่ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้น จึงอาจจะกล่าวได้ว่า Waterman เป็น บิดาแห่งปากกาหมึกซึม

ขอบคุณภาพ : GOOGLE


ในปี ค.ศ. ๑๙๐๐ ปากกาหมึกซึม พบคู่แข่งคือ ปากกาลูกลื่น เป็น ปากกาที่มีลูกกลิ้ง (Ball) กลมๆ เล็กๆ อยู่ที่ปลายปากกา เวลาเขียนลูกกลมๆ เล็กๆ นี้จะหมุน (กลิ้ง) ทำให้หมึกออกมาติดบนกระดาษ ปากกาชนิดนี้เกิดขึ้นมาประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว โดยชาวอเมริกัน จอห์น เอช. ลาวด์  
ปลายปี ค.ศ.๑๙๓๐ นักหนังสือพิมพ์และศิลปินชาวฮังกาเรียน ชื่อ ไบโร เขาเกิดแนวความคิดจาก หมึกแห้ง ที่ช่างพิมพ์ในโรงพิมพ์นั้นใช้พิมพ์หนังสือมาบรรจุลงในปากกา โดยที่หมึกจะไม่ไหลและหยดออกมาจนเปื้อนกระดาษ

ขอบคุณภาพ : GOOGLE

ปี ค.ศ. ๑๙๖๔ Bell Labs ร่วมมือกับสถาบัน MIT สร้าง MULTICS คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มีการแสดงผลบนหน้าจอ (VDT) และใช้วิธีการป้อนข้อมูลด้วย คีย์บอร์ดไฟฟ้า คีย์บอร์ดรุ่นแรกๆ นั้นเป็นคีย์บอร์ดที่สร้างเพื่อการใช้งานอย่างเดียว จึงมีวัสดุที่ทำจากเหล็กทำให้หนัก และไม่ได้ตกแต่งภายนอกหรือทำเพื่อความสวยงามมากนัก

ปี ค.ศ. ๑๙๘๑ IBM ผลิต PC เครื่องแรกเพื่อให้คนทั่วไปใช้
ปี ค.ศ. ๑๙๘๔ IBM ผลิตคีย์บอร์ดที่เรียกว่า Model M คีย์บอร์ดสำหรับคนทั่วไป ใช้ป้อนข้อมูลกั บคอมพิวเตอร์ โดยออกแบบมาให้ใช้ได้สะดวก แม่นยำ


ปิดฉาก เรื่องเล่าวันวาร วันนี้ !!!
ด้วย ... ทุภาษิตของหลวงตา ที่ว่า ...

สาคู นิกกํ ธัมม โอชะจัง ... เอวัง
แปลว่า " สาคู น้ำกระทิ อร่อยจัง หมดแล้ว"


คนไม่มี ค. ว. และ ย.

คนไม่มี  ค. ว. และ ย.   หยุดคิดเสียก่อน ... ก่อนตัดสินใจ ผมดูท่าว่า ... มัน จะไปกันใหญ่แล้วนะครับ ... !!! กับ สารพัดเรื่องราวที่เ...